สวัสดีครับพบกันอีกเช่นเคยกันช่อง 1one.asia วันนี้มาติดตามความคืบหน้าโครงการรถไฟระหว่างไทย – จีน กันบ้าง ที่ล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายไทย ประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย – จีน ครั้งที่ 28 ผ่านระบบ Video Conference
โดยผลการเจรจา สัญญา 2.3 (สัญญาการวางราง และระบบการเดินรถ ระบบอาณัติสัญญาณ พร้อมขบวนรถ) และเรื่องสกุลเงิน ที่จะชำระค่าก่อสร้าง ทั้ง 2 ฝ่ายได้ข้อยุติแล้ว และคาดว่าสามารถลงนามในสัญญาได้ไม่เกินเดือนตุลาคมนี้ เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายไทย และนายนิ่ง จี๋เจ๋อ รองประธานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน หัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายสาธารณรัฐประชาชนจีน ประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย – จีน ครั้งที่ 28 ผ่านระบบ Video Conference ที่กระทรวงคมนาคม
โดยมี นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม และ หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า การประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย – จีน ครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เจรจาร่วมกันจนได้ข้อยุติในส่วนของร่างสัญญา 2.3 (สัญญาการวางราง และระบบการเดินรถ ระบบอาณัติสัญญาณพร้อมขบวนรถ) วงเงิน 50,633.50 ล้านบาท
ขั้นตอนต่อจากนี้จะเร่งดำเนินการให้สามารถลงนามในสัญญา 2.3 ได้โดยเร็ว โดยหลังจากนี้การรถไฟฯ จะส่งร่างสัญญาต่ออัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญา คาดว่าจะสรุปร่างสัญญาเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาอนุมัติกรอบวงเงินและเงื่อนไข คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน
พร้อมระบุว่า จะลงนามในสัญญานี้ได้ภายในเดือนต.ค. 2563 หรือ อาจจะเร็วกว่านั้นอาจจะเป็นสิงหาและกันยาขั้นตอนทั้งหมดนี้อยู่ที่ขั้นตอนเรื่องของธุรการเรื่องเอกสารที่ใช้ในการตรวจร่างสัญญาของประเทศไทยและจีนและถ้าทำเรียบร้อย ก็จะทำแผนก่อสร้าง และสามารถดำเนินการได้ภายในปีนี้เลย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวอีกว่า สำหรับข้อสรุปเงื่อนไขสัญญา 2.3 ในเรื่องสกุลเงิน วงเงิน 50,633.50 ล้านบาท นั้น จะชำระเป็นเงินสกุลดอลล่าร์ 80% จำนวน1,313,895,273 ดอลล่าร์ หรือ 40,506.8 ล้านบาท เป็นสกุลบาท 20% หรือ 10,126.5 ล้านบาท
ส่วนการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย – จีน ครั้งที่ 29 ฝ่ายไทยได้เสนอเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมที่ประเทศไทย ในช่วงระยะเวลาไม่เกินเดือนตุลาคม 2563
สำหรับโครงการความร่วมมือไทย-จีน ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย) ระยะที่1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. วงเงิน 179,413 ล้านบาท เริ่มการก่อสร้างงานโยธาเมื่อปี 2561 แล้วเสร็จในปี 2566
ส่วนระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 355 กม. วงเงิน 211,757 ล้านบาท เริ่มดำเนินการในปี 2563 -2568
นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า โครงการดังกล่าวนี้ จะเป็นโครงการที่จะเชื่อมต่อระบบการขนส่งทางราง จากกรุงเทพมหานครไปยังจังหวัดนครราชสีมาไปถึงจังหวัดหนองคาย แล้วจะเชื่อมต่อไปยังประเทศลาว แล้วต่อไปยังประเทศจีนตอนใต้ ซึ่งตรงนี้จะมีพี่น้องประชาชน ทั้ง 3 ประเภทอยู่เป็นจำนวนหลายร้อยล้านคน ก็จะเป็นมิติในการที่จะทำให้การดำเนินการในเรื่องของการที่จะขนส่งไม่ว่าจะเป็นผู้โดยสาร เป็นสินค้า จะสามารถทำได้อย่างสะดวก รวดเร็ว แล้วก็สามารถที่จะมีราคาในการบริการที่ถูกลง
ก็ถือว่าผลการเจรจาประสบความสำเร็จนะครับ หลังจากที่โครงการนี้ล่าช้ามานานมาก เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และเรื่องสกุลเงินที่จะใช้ชำระค่าก่อสร้าง ซึ่งหากเป็นไปตามแผนโครงการนี้จะเดินหน้าได้ภายในปีนี้ และจะได้เข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากนี้ให้มีความคึกคักขึ้นครับ
