ไทย-จีน ลุยยุทธศาสตร์ 10ปี เร่งเชื่อมต่อรถไฟไทย-มาเลย์-สิงคโปร์

330

มาติดตามความสัมพันธ์ไทย จีนกันบ้าง ล่าสุด นายหวังอี้พบปะหารือกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย เห็นพ้อง ร่วมกันจัดทำแผนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านในอีก 10 ปีข้างหน้า หวังร่วมกันเขียนหน้าใหม่ของประวัติศาสตร์แห่ง “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” พร้อม เร่งรัดการก่อสร้างทางรถไฟจีน-ไทย และหารือการเชื่อมต่อกับทางรถไฟสายไทย-มาเลเซีย-สิงคโปร์ เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ

4 เมษายน 2565 มีรายงานจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยว่า เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2022 นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบปะหารือกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ที่อยู่ระหว่างเยือนประเทศจีน ณ เมืองทุนซี มณฑลอานฮุย
นายหวัง อี้กล่าวว่า ปีนี้ครบรอบ 10 ปีความสัมพันธ์การเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างจีน-ไทย บนจุดเริ่มต้นใหม่นี้ ทั้งสองฝ่ายต้องร่วมกันจัดทำแผนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านในอีก 10 ปีข้างหน้าระหว่างสองประเทศ เพื่อร่วมกันเขียนหน้าใหม่ของประวัติศาสตร์แห่ง “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน”

นายหวัง อี้กล่าวว่า ฝ่ายจีนยินดีพัฒนาความร่วมมืออย่างรอบด้านกับฝ่ายไทย เพื่อให้ความร่วมมือจีน-ไทยอยู่ในระดับแนวหน้าของความร่วมมือระดับภูมิภาค ทั้งสองฝ่ายควรเร่งรัดการหารือเกี่ยวกับแนวทางแผนความร่วมมือและแผนปฏิบัติการร่วม “สายแถบและเส้นทาง” เร่งรัดการก่อสร้างทางรถไฟจีน-ไทยให้เชื่อมต่อกับทางรถไฟจีน-ลาวในทิศทางเหนือ และหารือการเชื่อมต่อกับทางรถไฟสายไทย-มาเลเซีย-สิงคโปร์ในทิศทางใต้ เพื่อให้สายกลางของทางรถไฟสายทรานส์เอเชียเชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์

ทั้งสองฝ่ายควรใช้การดำเนินการตาม “ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจอย่างรอบด้านระดับภูมิภาค (RCEP)” เป็นโอกาสในการดึงศักยภาพของความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคี และขยายความร่วมมือในด้านเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ เศรษฐกิจดิจิทัล พลังงานใหม่ ฯลฯ ฝ่ายจีนสนับสนุนให้วิสาหกิจจีนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงการสำคัญ ๆ ในไทย ขยายบทบาทนำร่องของนิคมอุตสาหกรรมจีน-ไทยระยอง และหารือเกี่ยวกับโครงการริเริ่มต่างๆ เช่น นิคมความร่วมมือด้านกำลังผลิตสากลระหว่างจีน-อาเซียน และนิคมอุตสาหกรรมสีเขียวให้มีการทดลองเปิดใช้ในประเทศไทยเป็นประเทศแรก ๆ ผลักดันความร่วมมือในการผลิตบรรจุวัคซีน ตลอดจนวิจัยและพัฒนายา วัสดุป้องกันโรคระบาด

นายดอน ปรมัตถ์วินัย ได้กล่าวย้อนถึงความปลื้มปิติขณะเยือนจีนครั้งแรกในปี (พ.ศ. 2518) 1975 เมื่อครั้งไทยและจีนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต โดยกล่าวว่า ไทยทะนุถนอมและให้ความสำคัญกับมิตรภาพที่มียาวนานระหว่างสองฝ่าย ไทยยินดีร่วมมือกับจีนเพื่อส่งต่อมิตรภาพระหว่างไทยและจีนจากรุ่นสู่รุ่น ฝ่ายไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติตามฉันทามติสำคัญที่ผู้นำของทั้งสองประเทศบรรลุร่วมกัน และยินดีร่วมกันสร้าง “สายแถบหนึ่งเส้นทาง” ที่มีคุณภาพสูงกับฝ่ายจีน

 

นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบปะหารือกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ที่อยู่ระหว่างเยือนประเทศจีน ณ เมืองทุนซี มณฑลอานฮุย/Cr.ภาพ Chinese Embassy Bangkok

อีกทั้งมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในโครงการริเริ่มเพื่อการพัฒนาระดับโลกที่เสนอโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง หวังว่าทั้งสองฝ่ายจะขยายความร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตรและการเชื่อมโยงระหว่างกัน รับรองความมั่นคงของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทาน กระชับความร่วมมือในการพัฒนาที่ยั่งยืน และขอบคุณฝ่ายจีนที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการไทยที่เข้ามาลงทุนในประเทศจีน

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะผลักดันความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างจีน-อาเซียน และกระชับความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมภายใต้ความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง (LMC) นายหวัง อี้กล่าวว่าจีนยินดีและสนับสนุนให้ไทยรับตำแหน่งประธานร่วมของ LMC อีกวาระหนึ่ง

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้สนทนาเชิงลึกเกี่ยวกับการเสริมสร้างความร่วมมือพหุภาคี นายหวัง อี้กล่าวว่าปัจจุบันสถานการณ์ระหว่างประเทศเต็มไปด้วยความขัดแย้งและความไม่แน่นอน จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายต้องเร่งปกป้องสันติภาพและการพัฒนาของโลก รวมทั้งต้องปกป้องเสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในเอเชีย

ในปีนี้จีนไทยและอินโดนีเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสำคัญ 3 การประชุมที่มีอิทธิพลทั่วโลก ได้แก่ BRICS APEC และ G20 ตามลำดับ จีนยินดีเสริมสร้างความร่วมมือกับทั้งสองประเทศและรวบรวมฉันทามติเพื่อส่งพลังงานบวกและความมั่นคงให้โลกมากขึ้น อีกทั้งร่วมกันส่งเสียงที่เข้มแข็งว่าประเทศในเอเชียมุ่งมั่นที่จะพัฒนาอย่างสันติ

ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหายูเครนและอื่น ๆ นายหวัง อี้ได้นำเสนอความคิดเห็นที่สำคัญของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ถึงผู้นำสหภาพยุโรปในการแก้ไขวิกฤตยูเครนเมื่อวันที่ 1 เมษายน โดยเน้นว่าประเทศในเอเชียควรรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค และร่วมกันต่อต้านการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวและการใช้อํานาจรัฐนอกเขตอำนาจที่ไร้พื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันมิให้เกิดความตึงเครียดและวิกฤตขึ้นในภูมิภาคนี้ นายดอน ปรมัตถ์วินัยชื่นชมและเข้าใจจุดยืนที่เป็นธรรมของจีนในประเด็นยูเครน

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นในเมียนมาและอื่น ๆ

ครับ ไทย จีน มีความสัมพันธ์มายาวนาน และแน่นแฟ้น การร่วมมืออย่างจริงจังทั้งสองฝ่าย นอกจากจะทำให้ทั้ง 2 ประเทศได้รับประโยชน์แล้ว ยังจะทำให้ภูมิภาคอาเซียน มีการพัฒนา และอาจจะทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจในแถบนี้ แซงยุโรป ได้ในอีกไม่ช้าไม่นาน ครับ