“มาเลเซีย”หนี้ท่วม!!”มหาเธร์”นำครม.ลดเงินเดือน 10 %

570

 

 

 

ในที่สุดความจริงก็ปรากฏ  ว่าเศรษฐกิจของมาเลเซียในยุครัฐบาล”นาจิบ ราซัค” ที่เคยชมกันว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง มีภาพลักษณ์ที่สวยหรู จนต่างชาติต่างพาเหรดกันเข้าไปลงทุน แท้จริงแล้วเป็นแค่ภาพลวงตา

 

 

และตอกย้ำว่า “รัฐบาลนาจิบ” มีการหมกเม็ด ไม่บอกความจริงเรื่องฐานะการเงินของประเทศให้ประชาชนและนานาชาติทราบ

 

 

 

 

โดยมหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้มีหนี้สาธารณะของประเทศมาเลเซีย สูงเกินกว่า 1 ล้านล้านริงกิต  หรือ ราว 8.2 ล้านล้านบาท   คิดเป็น 65% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี )

 

 

ซึ่งหนี้ก้อนโตนี้  ส่วนหนึ่งมาจากโครงการร่วมทุนเมกะโปรเจ็กต์กับนานาประเทศ ที่ “รัฐบาลนายนาจิบ” ได้ก่อเอาไว้

 

 

เรื่องนี้ดูแล้ว เป็นปัญาหาหนักอึ้ง ที่มหาเธร์ โมฮัมหมัด จะต้องถ่อสังขารตัวเองในวัย 92 ปี ในฐานะนายกรัฐมนตรี   นำพาประเทศมาเลเซียให้พ้นวิกฤตินี้ ไปให้ได้

 

 

โดยล่าสุด “มหาเธร์” ได้ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.ครั้งแรก  พร้อมประกาศว่า  ตนเองพร้อมรัฐมนตรี จะปรับลดเงินเดือน  10 %  เพื่อร่วมบรรเทาปัญหาภาระการเงินของชาติ  ซึ่งเป็นมาตรการที่เคยใช้ในปี 2523 เมื่อคราวนั่ง “ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี”สมัยแรก

 

 

ทั้งนี้ปกติ นายกฯ มาเลเซียรับเงินเดือนประมาณ 180,000 บาท รองนายกฯประมาณ 140,000 บาท และะรัฐมนตรีช่วยประมาณ  87,000 บาท

 

 

ไม่เพียงเท่านั้น”มหาเธร์” ยังประกาศด้วยว่า จะลดค่าใช้จ่ายอย่างอื่นด้วย คือ การยุบหน่วยงานที่ไม่จำเป็นเพื่อลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล  เช่น สำนักงานคณะกรรมการการขนส่งสาธารณะทางบก (SPAD)  สภาอาจารย์แห่งชาติและกรมกิจการพิเศษ (JASA)รวมทั้งตำแหน่งทางการเมืองที่มีการตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนรัฐบาลในยุครัฐบาลนาจิบ

 

Cr.dr. mahathir bin mohamad

 

 

รวมทั้งการทบทวนโครงการร่วมทุนเมกะโปรเจ็กต์ ที่ทำไว้กับต่างประเทศ   ซึ่งเข้าใจว่า จะหมายถึงโครงการอีสต์ โคสต์ เรียล ลิงค์( East Coast Rail Link )หรืออีซีอาร์แอล มูลค่า วงเงิน 5.5 หมื่นล้านริงกิต  หรือราว  4.3 แสนล้านบาท ที่”มหาเธร์” เคยวิพากษ์วิจารณ์หลายครั้ง  จึงไม่แปลกที่ล่าสุดเห็นฝ่าย “จีน”ต้องลุกลี้ลุกลนแบบนั่งไม่ติด

 

 

แต่สิ่งหนึ่งที่ “มหาเธร์”ยืนยันว่ายังไม่เปลี่ยนแปลง คือ ราคาน้ำมันเบนซิน   แม้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกสูงกว่า 70 ดอลลาร์สหรัฐ  หรือ ราว 2,240 บาท ต่อบาร์เรลก็ตาม ซึ่งแสดงให้เห็นว่า “มหาเธร์ เข้าใจได้อย่างดีว่า เรื่องน้ำมันเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญในการดำรงชีวิตของประชาชน

 

 

Cr.dr. mahathir bin mohamad

 

อย่างไรก็ตาม ไม่มีการระบุว่า ปัญาหาหนี้สาธารณะของประเทศมาเลเซีย เม็ดเงินราว  8.2 ล้านล้านบาท   จะใช้เวลานานแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่”มหาเธร์” แสดงให้เห็นคือ การนำพาประเทศสู่ความจริง และการพึ่งพาประเทศตัวเองให้มากที่สุด

 

แต่การจะทำอย่างนั้น คือ ผู้นำต้องมีความเสียสละก่อน เมื่อประชาชนเห็น เขาก็จะตามเอง เมื่อทุกฝ่ายตามการแก้วิกฤติในสัมฤทธ์ผลย่อมเกิดขึ้นได้

 

ซึ่งก็ต้องติดตามว่าสถานการณ์ในมาเลเซียกันต่อไป