สวัสดีครับพบกันอีกเช่นเคยกับช่อง 1one.asia วันนี้ มาติดตามข่าว การแก้ปัญหาน้ำเน่าเสียในคลอง ของกรุงเทพมหานครกันบ้างบ้าง
ที่ล่าสุด กทม. ประชุมหารือการจัดการคุณภาพน้ำในคลองหลักของกรุงเทพมหานคร มุ่งเน้นผลักดันแนวทางในการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียและจัดการคุณภาพน้ำในระยะยาว เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ
30 มิ.ย. 63 นายศักดิ์ชัย บุญมา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมหารือการจัดการคุณภาพน้ำในคลองหลักของกรุงเทพมหานคร ณ ห้องประชุมโยธา 1 ชั้น 6 อาคารสำนักการโยธา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง
โดยมี คณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักการโยธา สำนักการระบายน้ำ เข้าประชุมหารือร่วมกัน
โดยนายศักดิ์ชัย ระบุว่า กรุงเทพมหานคร มีคลองจำนวน 1,161 แห่ง และคู ลำราง ลำกระโดง จำนวน 521 แห่ง ซึ่งมีลักษณะเป็นโครงข่ายเชื่อมต่อกัน สำหรับคลองที่อยู่ในพื้นที่บริการบำบัดน้ำเสียของกรุงเทพมหานคร ทั้ง 8 แห่ง รับผิดชอบโดยสำนักการระบายน้ำ และสำนักงานเขตพื้นที่ ซึ่งสถานการณ์คุณภาพน้ำในปัจจุบันพบว่าคุณภาพน้ำในคลองมีค่าความสกปรกสูง และมีสาเหตุมาจากปัญหา ดังนี้
1. คลองในกรุงเทพมหานครมีลักษณะเป็นโครงข่ายเชื่อมต่อกัน จึงทำให้น้ำเสียที่ไหลลงคลองนอกพื้นที่ บริการไหลเข้ามาปะปนน้ำในคลองที่อยู่ในพื้นที่บริการ
2.ท่อรวบรวมน้ำเสียส่วนใหญ่ถูกก่อสร้างในคลองสายหลัก ส่งผลให้น้ำเสียที่ไหลลงคลองสาขาเมื่อรวมกับ คลองสายหลักแล้ว มีคุณภาพน้ำแย่ลงตามไปด้วย
3. ไม่มีพื้นที่ริมคลองเพียงพอสำหรับก่อสร้างบ่อดักน้ำเสีย
4. มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างภายหลังการก่อสร้างท่อรวบรวมน้ำเสีย โดยอาคารดังกล่าวทำการเจาะท่อน้ำเสียไหลลงสู่คลองต่าง ๆ โดยตรง
5. สถานประกอบการส่วนใหญ่ บำบัดน้ำเสียไม่ได้มาตรฐานก่อนปล่อยลงคลองสาธารณะ
จึงได้มีการกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาขึ้นมาเป็น 3 ระยะ คือ มาตรการระยะสั้น ด้วยการปลูกฝังจิตสำนึก (Public Awareness) , การบังคับใช้กฎหมาย (Command and Control) , การขุดลอกคูคลอง , การไหลเวียนน้ำภายในคลอง (Flushing)
มาตรการระยะกลาง ดำเนินการโดยการก่อสร้างเขื่อนพร้อมระบบท่อรวบรวมน้ำเสีย
และมาตรการระยะยาว ดำเนินการโดยการก่อสร้างระบบรวบรวมและระบบบำบัดน้ำเสีย เพื่อจัดการคุณภาพน้ำในคลองให้มีค่าความสะอาดและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
รองผู้ว่าฯ ศักดิ์ชัย ได้สั่งการให้สำนักการระบายน้ำ จัดทำแนวทางการบริหารจัดการน้ำท่วม และแนวทางการจัดการคุณภาพน้ำคลองในพื้นที่บริการของโรงควบคุมคุณภาพน้ำกรุงเทพมหานครทั้ง 8 แห่ง ให้มีค่าคุณภาพน้ำที่ดีขึ้น และได้สั่งการสำนักการโยธา ให้กำกับดูแลผู้ประกอบการ และเจ้าของอาคารประเภทต่าง ๆ ให้ดำเนินการควบคุมตรวจสอบระบบบำบัดน้ำเสียภายในอาคารก่อนปล่อยลงสู่ระบบระบายน้ำสาธารณะ โดยขอให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 (มาตรฐานน้ำทิ้งอาคารประเภทต่างๆ) อย่างเคร่งครัด อีกทั้งให้ดำเนินการสำรวจรังวัดคลองสาธารณะ ตลอดจนตรวจสอบจำนวนคลอง คู ลำราง ลำกระโดงในกรุงเทพมหานคร เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลการขึ้นทะเบียนต่อไป
กรุงเทพมหานคร ได้ชื่อว่า เป็นเวนิสตะวันออก เพราะมีคูคลองมากมายเหมือนในเมืองเวนิส แคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญระดับโลก
แต่น่าเสียดายที่กรุงเทพมหานคร ยังไม่สามารถใช้ทรัพยากรคูคลอง มาใช้ได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากสภาพน้ำที่เน่าเสีย มีขยะมูลฝอย สกปรก และคูคลองถูกรุกล้ำ
ดังนั้นหากกทม.ดำเนินการดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยนำเทคโนโลยีดิจิตอล เข้ามาช่วยในการสำรวจพื้นที่และเร่งแก้ไขปัญหา นอกจากจะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี ก็จะช่วยพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว นำรายได้เข้าประเทศได้อีกด้วยครับ