สวัสดีครับพบกันอีกเช่นเคยกับช่อง 1one.asia วันนี้มาติดตามระบบการขนส่งทางน้ำกันบ้าง ที่ล่าสุด ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการดำเนินโครงการพัฒนาระบบการเดินเรือในคลองผดุงกรุงเกษม โดยจะจัดการเดินเรือด้วยเรือไฟฟ้า จำนวน 8 ลำ ภายในเดือน ต.ค. 63 นี้
ที่น่าสนใจคือ การเดินเรือในคลองผดุงกรุงเกษม นี้จะสามารถต่อรถไฟชานเมือง ที่ท่าเรือรถไฟหัวลำโพง และต่อรถไฟฟ้าMRT ที่ท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพง เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ
เมื่อ 30 มี.ค. 63 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 7/2563 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตพระนคร
ในที่ประชุม นายพานุรักษ์ กลั่นนุรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง ได้รายงานถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการพัฒนาระบบการเดินเรือในคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งมีรายละเอียดของโครงการ ดังนี้ 1. การจัดหาเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าพร้อมระบบโซ่ลาเซลล์ (ไร้มลพิษทางเสียงและอากาศ) จำนวน 7 ลำ
2. การบริหารจัดการเดินเรือ จากท่าเรือตลาดเทวราชถึงท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพง ซึ่งแบ่งกระบวนการบริหารจัดการเดินเรือเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 จ้างบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด จัดการเดินเรือโดยใช้เรือของบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด 2 ลำ
และจัดหาเรือไฟฟ้าเพิ่มเติม จำนวน 7 ลำ มีระยะเวลาดำเนินงาน 180 วัน ช่วงที่ 2 จ้างบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด จัดการเดินเรือด้วยเรือไฟฟ้า จำนวน 8 ลำ ระยะเวลาดำเนินการ 660 วัน สำหรับเรือที่จัดหามาจะเก็บสำรองไว้ 1 ลำ กรณีเรือลำหนึ่งลำใดขัดข้อง เพื่อให้มีเรือบริการประชาชนครบ 8 ลำ ตามรอบการเดินเรือ
สำหรับการเดินเรือในคลองผดุงกรุงเกษมได้กำหนดเดินเรือ จำนวน 11 ท่าเรือ ระยะทางรวม 5 ก.ม. ครอบคลุมพื้นที่ 4 เขต ได้แก่ พระนคร ดุสิต ป้อมปราบฯ และปทุมวัน มีจุดเชื่อมต่อการเดินทาง จำนวน 4 จุด ได้แก่
1. ต่อเรือด่วนเจ้าพระยา ที่ท่าเรือตลาดเทวราช จุดที่ 2 ต่อเรือแสนแสบ ที่ท่าเรือกระทรวงพลังงาน จุดที่ 3 ต่อรถไฟชานเมือง ที่ท่าเรือรถไฟหัวลำโพง และจุดที่ 4 ต่อรถไฟฟ้าMRT ที่ท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพง
ทั้งนี้ ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ดำเนินการโครงการดังกล่าวต่อไป ภายหลังจากที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครแล้ว สำนักการจราจรและขนส่ง จะดำเนินการขออนุมัติจ้าง บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) โดยวิธีเฉพาะเจาะจงลงนามสัญญาภายใน เม.ย. 63 โดยจะจัดการเดินเรือด้วยเรือไฟฟ้า จำนวน 8 ลำ ภายในเดือน ต.ค. 63 จากนั้นจะดำเนินการจ้างที่ปรึกษา PPP (ซึ่งอยู่ระหว่างของบประมาณปี 2564) และดำเนินการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนต่อไป
กรุงเทพมหานคร ในอดีตเป็นเมืองที่ฝรั่งเรียกว่า เวนิชตะวันออก เพราะมีคูคลองเยอะ และในอดีตผู้คนก็ใช้คูคลองเป็นเส้นทางสัญจรหลัก แต่วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ผู้คนหันไปใช้การเดินทางแบบอื่น การให้ความสำคัญของคูคลองค่อยๆ ลดความความสำคัญไป
ดังนั้น การหันมาให้ความสำคัญกับการเดินเรือในคูคลอง นอกจากจะช่วยด้านการจราจรแล้ว ก็ยังเป็นการอนุรักษ์คูคลอง และส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย
และที่อยากเห็นสุดๆ คือ การเดินเรือในคูคลองในกรุงเทพฯ เป็นเรือไฟฟ้าทั้งหมด เพราะไร้มลพิษทางเสียงและอากาศ ครับ