ขยายสัญญาอีก-ครั้งที่ 4 โครงการรัฐสภาแห่งใหม่ขยายสัญญาอีก-ครั้งที่ 4

429

สวัสดีครับพบกันอีกเช่นเคยกับช่อง 1one.asia วันนี้มาติดตาม โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ กันบ้าง ล่าสุด ความก้าวหน้าโครงการ 75.66 %  และขยายสัญญาอีกเป็นครั้งที่ 4 ไปถึงปลายปี 2563 นี้   จากเดิมคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จในวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ทำไมต้องเลื่อนแล้วเลื่อนอีก ติดขัดเรื่องอะไร เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ

 

ก็ต้องรอกันต่อไปสำหรับโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ หรือ สัปปายะสภาสถาน ที่ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ โดยความคืบหน้าล่าสุด ณ วันที่ 14 ก.พ.63 แผนงานสะสม 75.42 %  ความก้าวหน้าสะสม 75.66 %
โดยกำหนดเดิมต้องแล้วเสร็จภายใน 900 วัน หรือในวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 แต่โครงการได้ล่าช้าออกไปเนื่องจากปัญหาการส่งมอบพื้นที่และการปรับรายละเอียดแบบก่อสร้างในบางส่วน ทำให้โครงการได้เลื่อนออกไป โดยจะต้องสร้างแล้วเสร็จในวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2562
แต่ล่าสุดก็ไม่เสร็จตามกำหนดและต้องเลื่อนไปอีกครั้งที่  4  ออกไปถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563  ก็คืออีก 382 วัน
โดยในรายงานความคืบหน้าโครงการ ระบุถึงความล่าช้า 2 สาเหตุหลักคือ
1.งานระบบท่อร้อยสาย สำหรับงานเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารยังไม่ได้ผู้ดำเนินการ ซึ่งต้องทำงานก่อนงานติดตั้งฝ้าเพดานของสัญญาหลัก และหากดำเนินการภายหลังต้องรื้องานฝ้าเพดาน ซึ่งมีตั้งแต่ชั้นใต้ดิน 2 ถึงชั้น 11 2.อนุสาวรีย์ ร.7 ยังไม่สามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างต่อได้ เนื่องจากติดปัญหารูปแบบของอนุสาวรีย์
ประเด็นการขยายสัญญาโครงการก่อสร้างอาคารรฐสภาแห่งใหม่ครั้งที่ 4  นี้ นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า   ความจริงมีการขอขยายเวลามา 504 วัน แต่เมื่อหารือกับคณะที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ จึงตัดคำขอที่ไม่จำเป็นออกไป และมีมติขยายเวลาให้เพียง 382 วัน
เพราะเห็นว่าเป็นความผิดพลาดของทางส่วนราชการเองที่ไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณของระบบไอซีทีได้ทันตามกรอบเวลาในเดือนมิถุยายนปี 2561 ตามแผน แต่กลับมาเบิกได้ในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน
ทำให้กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างผู้รับเหมาล่าช้ามาถึงปี 2562  ซึ่งในกระบวนการก่อสร้างต้องให้บริษัท. ซิโนหยุดรอกระบวนการ เพื่อรอให้บริษัทที่รับผิดชอบวางระบบไอซีทีเข้ามาวางระบบ ควบคู่กับการก่อสร้างไปพร้อมกัน
ด้านบมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) แจ้งว่า ตามที่บริษัทฯ เป็นผู้รับจ้างก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบตามสัญญาเลขที่ 116/2556 ลงวันที่ 30 เมษายน 2556 โดยมีสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏรเป็นผู้ว่าจ้าง ซึ่งเดิมจะครบกำหนดระยะเวลาก่อสร้างในวันที่ 15 ธันวาคม 2562 นั้น
บริษัทฯ ขอเรียนว่าบริษัทฯ ได้ดำเนินงานก่อสร้างอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่องตลอดเวลาเพื่อให้งานเสร็จสมบูรณ์ตามสัญญา แต่ระหว่างก่อสร้างมีเหตุตามข้อกำหนดแห่งการขอขยายระยะเวลาก่อสร้างได้ตามสัญญาฯ บริษัทฯ จึงได้ดำเนินการขอขยายเวลาก่อสร้างโดยดำเนินการเป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขแห่งสัญญาก่อสร้างฯ อย่างถูกต้องครบถ้วน
โดยบริษัทฯ เสนอผ่านผู้ควบคุมงาน และที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร เพื่อพิจารณาการขอขยายระยะเวลาก่อสร้างตามสัญญาฯ
โดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้พิเคราะห์พิจารณาถึงเหตุผลและความจำเป็นที่เป็นอุปสรรคของการก่อสร้าง ตามเงื่อนไขข้อกำหนดแห่งการขยายเวลาก่อสร้างในสัญญาจ้างแล้ว ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562 สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร ได้ทำบันทึกแก้ไขเพิ่มเติมแนบท้ายสัญญาฯ ตกลงให้บริษัทฯ ขยายเวลาก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ ออกไปอีก 382 วัน นับตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563
ดังนั้น บริษัทฯ ได้ลงมือดำเนินงานก่อสร้างโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบของบริษัทฯอย่างถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาฯ ตลอดเวลา และได้รับการขยายเวลาก่อสร้างเป็นไปตามข้อกำหนดตามสัญญาฯ ดังกล่าวข้างต้น ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้องตามความจริงและเพื่อเป็นการป้องกันมิให้บุคคลที่มีเจตนาไม่สุจริตนำข้อมูลอันเป็นเท็จไปอ้างว่าบริษัทฯ ดำเนินงานก่อสร้างไม่แล้วเสร็จจะต้องถูกปรับตามสัญญาฯ เป็นเงินจำนวนมากอันอาจทำให้บริษัทฯ และนักลงทุนได้รับความเสียหายจากการกระทำของบุคคลดังกล่าว
สำหรับโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่  หรือ สัปปายะสภาสถาน เป็นอาคารรัฐสภาที่จะใช้แทนอาคารเดิมบริเวณข้างสวนสัตว์ดุสิต ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณมุมตะวันตกเฉียงใต้ของสี่แยกเกียกกาย ระหว่างถนนทหารกับถนนสามเสน ในพื้นที่แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
โดยแนวคิดของอาคารสัปปายะสภาสถาน   ออกแบบตามหลักการสถาปัตยกรรมไทยแบบไตรภูมิตามความเชื่อคติพุทธ   อาคารมีเครื่องยอดสถาปัตยกรรมไทย   ตั้งอยู่กลางอาคาร เพื่อจะยกฐานะของรัฐสภาไทยไปสู่ระดับโลก จะนำไปสู่สันติภาพ และพลิกฟื้นจิตวิญญาณของมนุษย์โลกต่อไป
โครงการนี้  เริ่มวางเสาเข็มตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556 โดยมีบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง  แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง   โครงการใช้งบประมาณทั้งหมดราว 22,987 ล้านบาท บนพื้นที่  119.6 ไร่   มีพื้นที่ใช้สอยในอาคาร 424,000 ตารางเมตร มีพื้นที่สีเขียวรวม 115,529 ตารางเมตร    มีความสูงจากฐานถึงยอดเจดีย์  134.56 เมตร ภายในประกอบด้วย ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พิพิธภัณฑ์ ศูนย์ประชุม ห้องสัมมนา สโมสรจัดเลี้ยง ห้องทำงาน สส. และ สว. ครบครัน
เนื่องจากพื้นที่ในอาคารถึง 424,000 ตารางเมตร ทำให้เมื่อก่อสร้างเสร็จ สัปปายะสภาสถาน  จะเป็นอาคารของรัฐที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลกแทนที่อาคารรัฐสภาแห่งโรมาเนีย ซึ่งมีพื้นที่ในอาคาร 365,000 ตารางเมตร โดยจะเป็นรองเพียงอาคารเดอะเพนตากอนในสหรัฐที่มีพื้นที่ 600,000 ตารางเมตรเท่านั้น
แต่หากนับแต่อาคารรัฐสภา   ก็หมายความว่า เมื่อสัปปายะสภาสถาน สร้างแล้วเสร็จ  จะกลายเป็นอาคารรัฐสภาใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลกทันที   ก็ต้องลุ้นกัน วันที่ 31 ธันวาคม 2563 นี้  นะครับว่า ฝันจะเป็นจริงหรือไม่