สวัสดีครับพบกันอีกเช่นเคยกับช่อง 1one.asia วันนี้มาติดตามข่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ย้ำ มีแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่หรือเมกะโปรเจกต์ โดยในปีงบประมาณ 2563 รวมเม็ดเงินกว่า 3 แสนล้านบาท ระบุ โครงการที่จำเป็นต้องเร่งด่วนมีทั้งสิ้น 86 โครงการ
พร้อมเผยความคืบหน้าหลายโครงการ ที่ประชาชนรอลุ้น เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะ /โครงการก่อสร้างทางรถไฟเส้นทางสายใหม่ ช่วงเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ /และการบินไทยเตรียมเซ็นสัญญากับ Airbus ในโครงการศูนย์ซ่อมบํารุงอากาศยาน เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงฯ มีแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่หรือเมกะโปรเจกต์ โดยในปีงบประมาณ 2563 มีงบประมาณที่จะใช้ลงทุนทั้งงบประมาณปกติและงบลงทุนของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ รวมประมาณกว่า 3 แสนล้านบาท
เมื่อ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ประกาศใช้ กระทรวงฯ จะเร่งรัดดำเนินโครงการทันที ซึ่งได้มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดบริหารสัญญาโครงการขนาดใหญ่ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี เช่นเดียวกับโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน – สระบุรี – นครราชสีมา ที่แยกสัญญาโครงการเป็น 40 สัญญา ส่งผลให้สามารถบริหารโครงการได้รวดเร็วมากขึ้น ให้ตรวจสอบรายละเอียดเงื่อนไขสัญญาและข้อกำหนดการจ้างสัญญาหรือทีโออาร์ให้รอบคอบ พร้อมทั้งระบุการใช้วัสดุและแรงงานในท้องถิ่น (Local content) 50%
สำหรับระยะเวลาที่เหลือประมาณ 7 เดือน ก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2563 ได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 30 กันยายน 2563 ซึ่งการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของกระทรวงฯ จะทยอยดำเนินการเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และดำเนินตามนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้กระทรวงฯ วางแผนการก่อสร้างให้กระจายความเจริญไปทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
ทั้งนี้ โครงการลงทุนด้านคมนาคมขนส่งที่จำเป็นต้องเร่งผลักดันในปีงบประมาณ 2563 ของกระทรวงฯ มีทั้งสิ้น 86 โครงการ โดยมีโครงการสำคัญที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติแล้วและอยู่ระหว่างเตรียมดําเนินการ อาทิ โครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตก ใช้เงินกองทุน Thailand Future Fund (TFE) ขณะนี้ได้ผู้ชนะการประมูลแล้ว 4 สัญญา เตรียมลงนาม 1 สัญญา ยังไม่ได้ลงนาม 3 สัญญา
โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะ ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอประกาศพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินและเตรียมการประกวดราคา โครงการก่อสร้างทางรถไฟเส้นทางสายใหม่ ช่วงเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ อยู่ระหว่างรอรับการจัดสรรงบประมาณปี 2563 เพื่อจ้างที่ปรึกษาจัดการประกวดราคาและเวนคืนที่ดิน
โครงการก่อสร้างทางรถไฟเส้นทางสายใหม่ ช่วงบ้านไผ่ – มุกดาหาร – นครพนม อยู่ระหว่างรอรับการจัดสรรงบประมาณปี 2563 เพื่อจ้างที่ปรึกษาจัดการประกวดราคาและเวนคืนที่ดิน
โครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม อยู่ในกระบวนการจัดหาที่ดิน และต้นปี 2563 จะประกาศหาเอกชนร่วมทุน โครงการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง 3 สายทาง ได้แก่ ช่วงรังสิต – ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ช่วงตลิ่งชัน – ศาลายา และช่วงตลิ่งชัน – ศิริราช จะเปิดให้บริการปี 2566 และโครงการในพื้นที่ EEC เช่น โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 อยู่ระหว่างการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน และโครงการศูนย์ซ่อมบํารุงอากาศยาน MRO คาดว่าจะลงนามในสัญญาร่วมลงทุนระหว่างบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กับ Airbus ภายในเดือนกรกฎาคม 2563 เป็นต้น
โดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและโครงการลงทุนสําคัญด้านคมนาคมขนส่ง มีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจมากกว่าร้อยละ 12 สะท้อนให้เห็นว่าแต่ละโครงการมีความคุ้มค่าในการลงทุน เนื่องจากมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจค่อนข้างสูง
การที่กระทรวงคมนาคมย้ำถึงแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่หรือเมกะโปรเจกต์ ในปีงบประมาณ 2563 ทีมีงบประมาณกว่า 3 แสนล้านบาท และมีโครงการเร่งด่วนมีทั้งสิ้น 86 โครงการ ถือเป็นข่าวที่สำคัญ เพราะเป็นโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานที่สำคัญอย่างมากต่อการพลิกฟื้นประเทศ
ซึ่งหากสามารถดำเนินการได้ตามแผน และมีความโปร่งในแล้ว เชื่อว่า จะเป็นก้าวย่างสำคัญของการยกระดับประเทศไทย ไปสู่แถวหน้าของเอเชีย ในไม่ช้าครับ
