สวัสดีครับพบกันอีกเช่นเคยกับช่อง 1one.asia วันนี้มาติดตามข่าวเรื่อง การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมของรถไฟฟ้ากันบ้าง ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการแสดงความคิดเห็นกันมานาน ล่าสุดมีข่าวดีครับเมื่อ คณะกรรมการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ได้ประชุมและสรุปในการใช้ข้อมูลการใช้งานร่วมกันของระบบตั๋วร่วม ในระยะเร่งด่วน โดยการพัฒนาให้บัตรแมงมุม บัตร MRT Plus ของ รฟม. และบัตร Rabbit ของ BTS สามารถใช้งานร่วมกันได้ โดยคาดว่า จะสามารถใช้ตั๋วร่วมได้ทั้ง 3 ระบบ ตั้งแต่เดือน มิ.ย.นี้ เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ
มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2563 ที่ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ครั้งที่ 28 โดยมีหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วม เช่น ผู้แทนกรมเจ้าท่า กรมการขนส่งทางบก สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) เป็นต้น
โดยนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ กล่าวว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปแนวทางการดำเนินงานระบบตั๋วร่วมในการใช้ข้อมูลการใช้งานร่วมกันของระบบตั๋วร่วม ในระยะเร่งด่วน โดยการพัฒนาให้บัตรแมงมุม บัตร MRT Plus ของ รฟม. และบัตร Rabbit ของ BTS สามารถใช้งานร่วมกันได้
ซึ่งในทางเทคนิคจะต้องพัฒนาระบบที่เกี่ยวข้องทั้งหมดตั้งแต่ระดับที่ 1 เครื่องอ่านบัตรของแต่ละประตูทางเข้าสถานี ระดับที่ 2 ระบบคอมพิวเตอร์ของแต่ละสถานี ระดับที่ 3 Clearing House ของแต่ละหน่วยงาน และระดับที่ 4 ศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง เพื่อให้สามารถรองรับบัตรได้ทั้ง 3 รูปแบบ
พร้อมนี้ รฟม. จะพัฒนาระบบตั๋วร่วมแบบที่ผูกกับบัญชีในลักษณะของ Account Based Ticketing หรือ ABT เพื่อรองรับบัตรประเภทอื่น ๆ เช่น บัตร EMV หรือ QR Code ไปด้วย นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีมติ ดังนี้
1. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) , BTS และ รฟฟท. ปรับปรุงพัฒนาระบบให้สามารถใช้บัตรร่วมกันได้ภายใน 4 เดือน (ก.พ. – พ.ค. 63)
2. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดสรรงบประมาณในการลงทุนพัฒนาระบบให้เชื่อมต่อกัน
3. ให้ รฟท. พัฒนาระบบโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงให้เข้ากับระบบตั๋วร่วม และขอให้รายงานความคืบหน้าในการประชุมครั้งต่อไป
4. ให้ รฟม. เร่งรัดพิจารณาดำเนินการระบบ Account Based Ticketing หรือ ABT ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และนำเสนอแนวทางดำเนินงานต่อที่ประชุมในการประชุมครั้งต่อไป
ทั้งนี้ ขอให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก รวดเร็วในการเดินทาง และขอให้รายงานความคืบหน้า ปัญหา อุปสรรคการดำเนินงาน ในการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งต่อไป
มีรายงาน นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ระบุเพิ่มเติมว่า ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค.63 โดยการประชุมครั้งต่อไปจะมีขึ้นกลางเดือน ก.พ. 2563 และ คาดว่าจะสามารถใช้ตั๋วร่วมได้ทั้ง 3 ระบบ ตั้งแต่เดือน มิ.ย.นี้
ระบบตั๋วร่วม จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อการเดินทางด้วยระบบรถไฟฟ้าให้กับประชาชนด้วยบัตรเพียงใบเดียว และยังสามารถ ต่อยอดการใช้งานไปยัง ขนส่งสาธารณะในรูปแบบอื่น รวมไปถึงภาคส่วนอื่นนอกเหนือจากภาคการขนส่งในอนาคตอีกด้วย
ดังนั้นจึงถือว่า ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เป็นความก้าวล้ำไปอีกระดับของระบบรถไฟฟ้าของไทย เหมือนที่ประเทศพัฒนาแล้วเขาใช้กันอยู่ครับ