สวัสดีครับพบกันอีกเช่นเคยกับช่อง 1one.asia วันนี้มาติดตามโครงการระบบรางที่เตรียมจะเปิดประมูลในปีนี้ คือปี 2563 กันบ้าง ซึ่งมีหลายโครงการ ทั้งโครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมือง โครงการรถไฟทางคู่เฟสที่ 2 โครงการรถไฟฟ้า รถไฟฟ้ารางเบา รวมทั้งในส่วนรถไฟความเร็วสูง เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ
หลังจากผ่านพ้นช่วงเทศกาลปีใหม่ไปแล้ว ตอนนี้ทุกภาคส่วนก็เข้าสู่โหมดการทำงานปกติ ที่ต้องจับตาต่อจากนี้ก็คือ เรื่องของการการผลักดันระบบราง ของกระทรวงคมนาคมในปีนี้
โดยในปี 2563 นี้ กระทรวงคมนาคม เตรียมผลักดันประมูลหลายโครงการ โดยช่วงต้นปี 2563 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ก็จะเปิดประมูลงานโยธาโครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (ส่วนต่อขยาย) 3 ช่วง คือ
ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต, ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา และช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช วงเงินรวม 2.3 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะทราบผลการประมูลในเดือนก.ค. 2563
ส่วนโครงการระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง และช่วงพญาไท-หัวหมาก (Missing Link) วงเงิน 4.4 หมื่นล้านบาท นั้น เนื่องจากว่า เส้นทางบางส่วนทับซ้อนกับโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา
ดังนั้นการรถไฟ จะมีการทบทวนในเรื่องนี้ และคาดว่าจะเสนอเรื่องกลับมาให้กระทรวงคมนาคมได้ในเดือนม.ค. 2563 ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาขยายกรอบเวลาดำเนินการก่อสร้างของโครงการจาก 36 เดือน เป็น 54 เดือน
นอกจากนี้ ยังมีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-บางขุนนนท์ และงานระบบรถไฟฟ้า ขบวนรถ และการเดินรถตลอดเส้นทาง วงเงิน 1.2 แสนล้านบาท ว่า คาดว่าจะเสนอให้ที่ประชุม ครม. เห็นชอบได้ในเดือนม.ค. 2563 และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะเปิดประมูลได้ในเดือนมิ.ย. 2563
และโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ วงเงิน 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งผ่านความเห็นชอบจาก ครม. แล้ว ก็คาดว่าจะเปิดประมูลและลงนามสัญญาได้ภายในปี 2563
ในขณะที่โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เฟสที่ 2 มีจำนวน 7 เส้นทาง มูลค่ารวมกว่า 2 แสนล้านบาท (236,000) นั้น รฟท. อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลเพิ่มเติมตามความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จากนั้นจะเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาเห็นชอบได้ภายในปี 2563
โดยรถไฟทางคู่เฟส 2 ที่เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้นได้แก่
1.รถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี มูลค่า 3.6 หมื่นล้านบาท,
2. รถไฟทางคู่ ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ มูลค่า 8 พันล้านบาท,
3. รถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย มูลค่า 2.6 หมื่นล้านบาท,
4.รถไฟทางคู่ ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย 5.6 หมื่นล้านบาท,
5.รถไฟทางคู่ ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี มูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท,
6. รถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา มูลค่า 5.7 หมื่นล้านบาท
และ 7.รถไฟทางคู่ระนอง-ชุมพร วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท
โดยคาดว่าทั้ง 7 เส้นทางนี้จะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2566
นอกจากนี้ จะเปิดประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมา สัญญาก่อสร้างโครงการที่ยังค้างอยู่ 4-5 สัญญา มูลค่าราว 50,000 ล้านบาท ให้แล้วเสร็จภายในช่วงไตรมาส1-2 ของปีนี้
และยังมีโครงการรถไฟฟ้ารางเบา (แทรม) จ.ภูเก็ต ช่วงท่านุ่น-ท่าอากาศยานภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง วงเงินราว 3.4 หมื่นล้านบาท ระยะทาง 41.7 กม. คาดว่า จะเปิดประมูลได้ในช่วงกลางปี 2563
นี่ก็เป็นความคืบหน้าของโครงระบบรางที่จะเปิดประมูลในปี 2563 นะครับ ซึ่งโครงการเหล่านี้ จะเข้ามาช่วยเติมเต็มการพัฒนา ตามแผนพัฒนาระบบรางของยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งคาดว่าในช่วงปี 66-67 ประเทศไทยจะมีรูปธรรมในด้านระบบรางที่ชัดเจน
และขึ้นมาอยู่ในระดับต้นๆ ของเอเชียครับ ครับ
