ทร.ไทย – ทร.รัสเซีย เซ็น MOU ร่วมเป็นพันธมิตรความมั่นคงทางทะเล

594

 

สวัสดีครับพบกันอีกเช่นเคยกับช่อง 1one.asia วันนี้มาติดตามข่าว ผู้บัญชาการทหารเรือรัสเซีย ร่วมกันลงนาม บันทึกความเข้าใจ หรือ MOU กับผู้บัญชาการทหารเรือของไทย เพื่อร่วมกันสร้างพันธมิตรความมั่นคงทางทะเล ซึ่งจะเป็นประโยชน์สูงสุดระหว่าง ทร. ทั้งสองประเทศต่อไป เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2562 พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พลเรือเอก Nikolai Evmenov ผู้บัญชาการทหารเรือรัสเซีย ร่วมกันลงนาม MOU บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงกลาโหมทั้งสองประเทศ ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกองทัพเรือ

พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พลเรือเอก Nikolai Evmenov ผู้บัญชาการทหารเรือรัสเซีย ร่วมกันลงนาม MOU (Cr.ภาพ: navy.mi.th)

โดยจะเป็นการขยายความร่วมมือตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับสหพันธรัฐรัสเซีย ว่าด้วยความร่วมมือทางการทหารและการสนับสนุนการส่งกำลังบำรุงทางทหารระหว่าง 2 รัฐบาลซึ่งจะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพเรือ ที่จะร่วมพัฒนาในด้านการฝึกทางทะเล การยกระดับการศึกษา การเยี่ยมเยือนระหว่างผู้บังคับบัญชา และหน่วยกำลังทางเรือ ตลอดจนร่วมกันสร้างพันธมิตรความมั่นคงทางทะเล ซึ่งจะเป็นประโยชน์สูงสุดระหว่าง ทร. ทั้งสองประเทศต่อไป

สำหรับไทยกับสหพันธรัฐรัสเซียมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันตั้งแต่สมัยรัชการที่ 5 ซึ่งเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ.2440 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสรัสเซีย โดยมีพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 เสด็จฯ มาทรงรับถึงที่สถานีรถไฟ จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นของการสถาปนาความสัมพันธ์ไทย – รัสเซียอย่างเป็นทางการ และยืนยาวมาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 122 ปี

ด้านความสัมพันธ์ทางทหารก็มีอย่างต่อเนื่อง เช่น กองทัพไทยกับกองทัพสหภาพโซเวียต ยกระดับความสัมพันธ์ทางทหาร โดยแต่งตั้ง ผู้ช่วยฑูตทหาร และ ผู้ช่วยทูตทหารบก โดยในปี 2521 พันเอก วันชัย จิตต์จำนงค์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง ผู้ช่วยทูตทหารบกไทย ประจำมอสโก และ รักษาราชการผู้ช่วยฑูตทหาร ไทยประจำมอสโก เป็นคนแรก
ในขณะที่ นายคิริลล์ บาร์สกี เอกอัครราชทูตรัสเซีย ประจำประเทศไทย ได้เยี่ยมคำนับและหารือกับ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เมื่อ 14 ธ.ค.58 เกี่ยวกับการเพิ่มความร่วมมือทางทหารระหว่างกันใน 3 เรื่อง ได้แก่ 1) การแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างผู้บังคับบัญชาระดับสูงของทั้งสองกองทัพ 2) การจัดการประชุมคณะกรรมการด้านการส่งกำลังบำรุงร่วม ซึ่งจัดขึ้นในปี 2559 ณ กรุงมอสโก และ 3) การแลกเปลี่ยนกำลังพลไปศึกษาในสถาบันการศึกษาทางทหารของสหพันธรัฐรัสเซีย หลังจากนั้นได้ติดตามสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่อง

ด้านยุทโธปกรณ์ กองทัพไทยมีการจัดหายุทโธปกรณ์จากสหพันธรัฐรัสเซียที่สำคัญ ดังนี้ ปัจจุบัน ทบ. มี ฮ.Mi-17 ประจำการ 5 เครื่อง และมีการลงนามจัดซื้อเพิ่มอีก 2 เครื่อง
สำหรับ ฮ.Mi-17 นั้น ทบ.ได้ใช้ในภารกิจปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยถ้ำหลวงอุทยานแห่งชาติขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จว.เชียงราย

การลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างของรัสเซีย กับไทยใน เพื่อเป็นพันธมิตรความมั่นคงทางทะเล ในครั้งนี้เป็นก้าวย่างที่น่าจับตามองอย่างมาก ซึ่งนอกจากจะมีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ที่จะช่วยคานอำนาจ ไม่ให้ประเทศมหาอำนาจชาติใดชาติหนึ่งมีอำนาจในภูมิภาคนี้มาเกินไป
ยังจะเป็นโอกาสที่ดีที่ทั้งสองฝ่ายจะได้มีความร่วมมือกันมากขึ้น ทั้งด้านการฝึก การศึกษา การจัดหายุทโธปกรณ์ รวมถึงการมือทางด้านอื่นๆต่อไป ครับ