สวัสดีครับพบกันอีกเช่นเคยกับช่อง 1one.asia วันนี้มาติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งเป็น 1 ใน 5 โครงการสำคัญ ของ EEC กันบ้าง ล่าสุดมีการเปิดซองประมูลราคาแล้ว ปรากฏว่า กลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส เป็นผู้เสนอราคาสูงสุด จากเอกชนผู้ยื่นข้อเสนอ 2 รายมีคะแนนผ่านเกณฑ์ แต่อย่างไรก็ตามทางคณะกรรมการคัดเลือกจะยังไม่ประกาศผู้ชนะและยังไม่เปิดเผยราคา ทั้งนี้คาดว่าจะลงนามในสัญญาร่วมลงทุนได้ ภายในเดือนมกราคม 2563 เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ
โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก (Cr.ภาพ ยูทูป EEC WE CAN)
เมื่อ 11 ตุลาคม 2562 พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือและประธานคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก แถลงว่า ตามที่คณะกรรมการคัดเลือกได้มีมติเห็นชอบให้เอกชนผู้ยื่นข้อเสนอ 2 ราย มีคะแนนผ่านเกณฑ์การประเมินข้อเสนอซองที่ 2 ซึ่งเป็นข้อเสนอด้านเทคนิค และเห็นชอบให้มีการดำเนินการเปิดเอกสารข้อเสนอซองที่ 3 ซึ่งเป็นข้อเสนอด้านราคา นั้น เอกชนผู้ยื่นข้อเสนอที่ผ่านการประเมิน 2 ราย ได้แก่ กลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส (BBS Joint Venture) และกลุ่ม Grand Consortium ได้ส่งผู้แทนมาเข้าร่วมการเปิดเอกสารข้อเสนอซองที่ 3 อย่างพร้อมเพรียง
โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก (Cr.ภาพ ยูทูป EEC WE CAN)
โดยการดำเนินการเปิดเอกสารข้อเสนอซองที่ 3 (ข้อเสนอด้านราคา) ทุกขั้นตอนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โปร่งใส และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ในเอกสารการคัดเลือกเอกชน และเป็นธรรมต่อผู้ยื่นข้อเสนอทุกราย ซึ่งในการเปิดเอกสารข้อเสนอซองดังกล่าวมีผู้แทนคณะกรรมการคัดเลือก ผู้แทนคณะทำงานฯ ผู้แทนกองทัพเรือ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ที่ปรึกษา และผู้สังเกตการณ์อิสระจากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เข้าสังเกตการณ์ รวมทั้งได้มีการบันทึกภาพนิ่ง ภาพวิดีโอ กล้องวงจรปิด เพื่อให้เกิดความโปร่งใสตลอดกระบวนการ
ทั้งนี้ คาดว่ากระบวนการคัดเลือกจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จ ภายในเดือนพฤศจิกายน 2562 และคาดว่าจะลงนามในสัญญาร่วมลงทุนได้ ภายในเดือนมกราคม 2563
ล่าสุด 12 ตุลาคม 2562 มีรายงานว่า ในการเปิดซองราคาครั้งนี้ผู้ที่ให้ผลตอบแทนกับรัฐสูงกว่าจะเป็นผู้ชนะซึ่งปรากฏว่า กลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส ซึ่งประกอบไปด้วย บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) จำกัด (มหาชน) และบริษัท ซิโน-ไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้เสนอราคาสูงสุด อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมการคัดเลือกจะยังไม่ประกาศผู้ชนะและยังไม่เปิดเผยราคา เพราะจะต้องไปดูที่มาที่ไปของการเสนอราคาตาม “ไฟแนนซ์เชียล โมเดล” ก่อนว่าเป็นจริงได้หรือไม่ จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการเรียกผู้เสนอราคาสูงสุดมาเจรจา และนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) และคณะรัฐมนตรี จึงจะประกาศชื่อผู้ชนะได้ อย่างไรก็ตาม จากการเปิดราคาในครั้งนี้ผู้เข้าร่วมประมูลทั้ง 2 ราย ต่างเห็นราคาของกันและกันแล้วว่าเสนอผลตอบแทนให้รัฐเท่าใด ขณะที่โครงการนี้มีมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 290,000 ล้านบาท
องค์ประกอบของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก (Cr.ภาพ eeco.or.th)
โครงการนี้ เปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน พัฒนาสนามบินและกิจกรรมต่อเนื่องต่าง ๆ ประกอบด้วยการก่อสร้างพร้อมให้บริการและบำรุงรักษา อาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 (Terminal 3) และศูนย์ธุรกิจการค้า (Commercial Gateway) ธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและโลจิสติกส์ (Air Cargo) ธุรกิจซ่อมเครื่องบิน (Maintenance Repair and Overhaul, MRO) ศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรการบินระยะที่ 2 และกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมอากาศยาน (Free Trade Zone) โดยจะให้เอกชนดำเนินการและใช้ประโยชน์พื้นที่โครงการได้เป็นระยะเวลา 50 ปี
โดยวัตถุประสงค์ของโครงการ คือ ให้เป็นสนามบินนานาชาติหลักแห่งที่ 3 ของประเทศไทยและธุรกิจต่อเนื่อง เป็นเขตส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เพื่อรองรับการขยายตัวของพื้นที่ EEC และเชื่อมโยงการขนส่งผู้โดยสารกับสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ และเป็นสนามบินที่มีความสำคัญในภูมิภาค
ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ตั้งอยู่ในพื้นที่ ตำบลพลา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง และพื้นที่โดยรอบประมาณ 6,500 ไร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอบ้านฉาง และอำเภอสัตหีบ จังหวัดระยอง
นี่เป็น 1 เป็น 1 ใน 5 โครงการสำคัญ ที่รัฐบาลนำร่องส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ภายในเดือนพฤศจิกายน 2562 กระบวนการคัดเลือกจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จ และจะลงนามในสัญญาร่วมลงทุนได้ ภายในเดือนมกราคมปีหน้าครับ
