มาบตาพุด เฟส 3 เริ่มได้ทันที หลังครม.ไฟเขียวถมทะเล 1,000 ไร่

803

 

สวัสดีครับพบกันอีกเช่นเคยกับช่อง 1one.asia วันนี้มาติดตามข่าว การก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 กันบ้าง ล่าสุด การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้เซ็นสัญญากับบริษัท กัลฟ์ เอ็มทีพี แอลเอ็นจี เทอร์มินอล จำกัด เพื่อพัฒนาท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 หลังคณะรัฐมนตรี ไฟเขียวขยายพื้นที่ด้วยการถมทะเล 1,000 ไร่ คาดเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2568 เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ

โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 เป็น 1 ใน 5 โครงสร้างพื้นฐานหลักในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC Project List มีมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น 55,400 ล้านบาท และจะเป็นโครงการแรกที่เริ่มปักหมุดลงทุนในพื้นที่ EEC หลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ไฟเขียวขยายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด รวมพื้นที่ถมทะเล 1,000 ไร่ เพื่อเดินหน้าโครงการก่อสร้างท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1

การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้ลงนามในสัญญาร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน หรือ Public Private Partnership (PPP NET Cost) กับ บริษัท กัลฟ์ เอ็มทีพี แอลเอ็นจี เทอร์มินอล จำกัด Cr.ภาพ ข่าว : www.eeco.or.th

 

โดยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้ลงนามในสัญญาร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน หรือ Public Private Partnership (PPP NET Cost) กับ บริษัท กัลฟ์ เอ็มทีพี แอลเอ็นจี เทอร์มินอล จำกัด หนุนไทยเป็นศูนย์กลางการพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) หวังสร้างอนาคตประเทศไทย คาดเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2568

ส่วนรายละเอียดสัดส่วนการลงทุนและโครงการก่อสร้างต่างๆนั้น
โครงการท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 ซึ่ง กนอ. และกัลฟ์ เอ็มทีพีฯ ลงนามสัญญาร่วมทุนกันในครั้งนี้ จะเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) โดยบริษัทคู่สัญญาที่ได้ลงนามในวันที่ 1 ตุลาคม 2562 จะเข้าไปพัฒนาพื้นที่ได้ทันที และจะได้สิทธิพัฒนาพื้นที่ท่าเรือ (Superstructure) ประมาณ 200 ไร่ รวมมูลค่าการลงทุนประมาณ 47,900 ล้านบาท แบ่งเป็น กนอ. ร่วมลงทุนไม่เกิน 12,900 ล้านบาท และเอกชน 35,000 ล้านบาท ได้แก่ การขุดลอกและถมทะเลพื้นที่ 1,000 ไร่ (แบ่งเป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์ 550 ไร่ และพื้นที่เก็บกักตะกอน 450 ไร่), การขุดลอกร่องนํ้าและแอ่งกลับเรือ, การก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น การก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานการติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมการเดินเรือ, ท่าเทียบเรือบริการ และท่าเรือรองรับปริมาณการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) 10 ล้านตันต่อปี

ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 Cr.ภาพ ข่าว : www.eeco.or.th

 

ส่วนโครงการในช่วงที่ 2 จะเป็นการลงทุนพัฒนาก่อสร้างในส่วนท่าเรือ (Superstructure) ซึ่ง กนอ. จะประกาศ TOR เชิญชวนเอกชนที่สนใจเข้าร่วมประมูล โดยเอกชนเป็นผู้ลงทุนพัฒนาท่าเทียบเรือสินค้าเหลว รองรับปริมาณขนถ่ายสินค้าเหลวได้ 4 ล้านตันต่อปี คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2566 และเปิดให้บริการภายในปี 2568 ซึ่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 4,300 ล้านบาท และงานก่อสร้างพื้นที่หลังท่า จำนวน 150 ไร่ เงินลงทุน 3,200 ล้านบาท เพื่อรองรับธุรกิจเกี่ยวเนื่อง /เพราะปัจจุบันการใช้งานท่าเรือมาบตาพุดใกล้เต็มศักยภาพแล้ว จึงต้องขยายเป็นระยะที่ 3 เพื่อรองรับการขนถ่ายก๊าซ LNG และสินค้าเหลวสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมี คาดว่าจะรองรับการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติและสินค้าเหลวได้เพิ่มอีก 14 ล้านตันต่อปี ในอีก 30 ปีข้างหน้า/

สำหรับโครงการท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 ที่ดำเนินการโดยบริษัท กัลฟ์ เอ็มทีพี แอลเอ็นจี เทอร์มินอล จำกัด เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ ในสัดส่วน 70% และอีก 30% ถือหุ้นโดยบริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด

ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 Cr.ภาพ ข่าว : www.eeco.or.th

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงนามดังกล่าวถือเป็นโครงการแรกที่บรรลุความสำเร็จในการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน ซึ่งจะสนับสนุนให้มาบตาพุดเป็นศูนย์กลางการพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และคาดหวังว่าจะมีความร่วมมือในโครงการที่สองตามมาคือ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) ที่จะดำเนินการได้เสร็จก่อนวันที่ 15 ตุลาคมนี้ แต่จะต้องผลักดันโครงการที่เหลือ ได้แก่ โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก, โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา (MRO) และโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ให้แล้วเสร็จทั้งหมด ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือในการเริ่มต้นลงทุนโครงการขนาดใหญ่ และสร้างอนาคตให้กับประเทศไทย

 

Cr.ภาพ www.ieat.go.th

 

นายสมคิด กล่าวด้วยว่า โครงการท่าเรือมาบตาพุด ระยะ 3 ช่วงที่ 1 นับเป็น 1 ใน 5 โครงสร้างพื้นฐานหลักในเขต EEC ซึ่งเป็นโครงการแรกในการเซ็นสัญญาร่วมทุน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในปี 2568 และมั่นใจว่าจะมีส่วนสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น และทำให้เกิดการเชื่อมต่อระบบขนส่งแบบไร้รอยต่อของไทยเพื่อเชื่อมสู่ประตูเศรษฐกิจกลุ่มประเทศ CLMVT

ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง มีเนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ โดยแบ่งเป็นพื้นที่หน้าท่า 550 ไร่ และพื้นที่หลังท่า 450 ไร่ ความยาวหน้าท่ารวมกัน 2,229 เมตร

โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ก็ต้องดูกันต่อนะครับว่า ในทางปฏิบัติโครงการนี้จะคืบหน้าแต่ไหน รวมถึงต้องจับตาโครงการที่เหลือด้วย นะครับ