มาติดตามข่าวดีกันบ้างนะครับ ล่าสุด มาสเตอร์การ์ดระบุว่า กรุงเทพฯ ครองแชมป์อันดับหนึ่งสุดยอดเมืองจุดหมายปลายทางของโลกติดต่อกันเป็นปีที่สาม แถมปีนี้ ภูเก็ตและเมืองพัทยา ติดเข้ามาอยู่ใน 20 อันดับแรกด้วย
Cr.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
โดยเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2561 ตัวแทนของ Mastercard ได้มอบรางวัล Mastercard Global Destination Cities Index 2018 ให้แก่ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เนื่องจากผลการสำรวจล่าสุดของ Mastercard ระบุว่า กรุงเทพมหานคร คือเมืองสุดยอดจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งของโลกที่นักท่องเที่ยวต้องการมาเยือนและพักแรมมากที่สุด ถือเป็นการครองอันดับหนึ่งครั้งที่ห้าในรอบหกปี นับจากปี 2555 และเป็นการครองอันดับหนึ่งต่อเนื่องเป็นปีที่สาม โดยในปีนี้มีจังหวัดภูเก็ตและเมืองพัทยาติดเข้ามาอยู่ใน 20 อันดับแรกด้วย ในตำแหน่งที่ 12 และ 18 ตามลำดับ
Cr.newsroom.mastercard.com
โดนัลด์ ออง ผู้จัดการประจำประเทศไทยและเมียนมาร์ของมาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า “ความจริงที่ว่าไทยเป็นประเทศเดียวที่มีเมืองน่าเที่ยวถึงสามแห่งติดอยู่ในยี่สิบอันดับต้น ตอกย้ำถึงความสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานที่มีเสถียรภาพ การผสมผสานที่ลงตัวทั้งในเรื่องงานและการพักผ่อน รวมไปถึงเสน่ห์ในวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยที่ใครๆ ต่างหลงใหล
ยิ่งกว่านั้น ความพยายามจากหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หรือหน่วยงานกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่งในการรักษาระดับการเติบโตที่เหนือกว่ามาตรฐานของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยให้ต่อเนื่องต่อไป
Cr.newsroom.mastercard.com
พร้อมระบุว่า ประเทศไทยมีโอกาสได้เป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลกหลายรายการในปีที่ผ่านมา และรัฐบาลไทยได้ขยายข้อยกเว้นให้แก่นักท่องเที่ยวที่พักระยะสั้น และมีการเพิ่มจุดตรวจคนเข้าเมืองพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ประกอบกับข้อเท็จจริงที่ว่ากรุงเทพมหานคร เป็นเมืองที่ไม่น่าจะแพงเท่าเมืองใหญ่อื่นๆ เช่น ปารีส สิงคโปร์ หรือกรุงโซล เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้กรุงเทพมหานคร ยังคงครองอันดับหนึ่งสุดยอดเมืองจุดหมายปลายทางของโลก
และเราก็รู้สึกดีใจที่ปีนี้ภูเก็ตได้ก้าวเข้ามาอยู่ในสิบอันดับต้นร่วมกับกรุงเทพฯ เมื่อพิจารณาจากจำนวนเงินจากการจับจ่ายของนักท่องเที่ยว
Cr.newsroom.mastercard.com
ด้านกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สรุปสถานการณ์ท่องเที่ยวชาวต่างชาติ กันยายน 2561ว่า มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 2,655,562 คน ในจำนวนนี้ เป็นนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกมากที่สุด 1,948,414 คน รองลงมา ได้แก่ นักท่องเที่ยวภูมิภาคยุโรป เอเชียใต้ อเมริกา ตะวันออกกลาง โอเชียเนีย และแอฟริกา ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวขยายตัวร้อยละ 2.1 ตามการขยายตัวของนักท่องเที่ยวเกือบทุกภูมิภาค
สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมากที่สุด 10 อันดับแรก ประกอบด้วย จีน มาเลเซีย ลาว ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย กัมพูชา ฮ่องกง สิงคโปร์ และเวียดนาม ตามลำดับ
นอกจากนี้ การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวระหว่างเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทย ก่อให้เกิดรายได้ประมาณ 140,140ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 2.92 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา สำหรับนักท่องเที่ยวที่สร้างรายได้สูงสุด 10 อันดับแรก ประกอบด้วย จีน มาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา ลาว อินเดีย สหราชอาณาจักร และกัมพูชา ตามลำดับ
นอกจากนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 28,541,887 คน ขยายตัวร้อยละ 8.71 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และสร้างรายได้รวม 1,490,458 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 10.95 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
นี่เป็นความน่าภูมิใจของคนไทย ที่เกิดจากคนไทยร่วมมือกัน และเป็นเจ้าบ้านที่ดีจนทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจและเดินทางกลับมาอีกครับ จนสร้างเม็ดเงินมหาศาล และชื่อเสียงให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
