“เวียดนาม” เป็นประเทศในเอเชียตะวันเฉียงใต้ ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องอีกประเทศหนึ่ง
แต่อย่างไรก็ตามเวียดนามยังมีปัญหาใหญ่ที่แก้ไม่ตก คือ การขาดแคลนไฟฟ้า โดยล่าสุด เมื่อ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา สื่อเวียดนาม vnexpress.net ได้รายงานถึงเรื่องนี้ว่า กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า กล่าวว่า เวียดนามอาจประสบปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าในอีก 5-7 ปีข้างหน้าเนื่องจากความกดดันที่เกิดขึ้น เพื่อลดการใช้ถ่านหินและโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ทำให้เงินทุนเริ่มขาดแคลน และผู้ลงทุนไม่ค่อยมีส่วนร่วมในโครงการด้านพลังงาน
โดยอ้างถึงคำสัมภาษณ์ของนายหวง ก๊วก เวียง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้ากล่าวว่า การไฟฟ้าต้องเผชิญกับความยากลำบากมาก ในการบรรลุเป้าประสงค์ในการผลิตไฟฟ้า 96,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2568
นายหวง ก๊วก เวียง กล่าวอีกว่า การผลักดันของรัฐในเรื่องการใช้พลังงานจากถ่านหินและไฟฟ้าพลังน้ำน้อยลง การระดมทุนที่จำกัด การเติบโตของโครงการไฟฟ้ารายใหญ่ และการขาดความสนใจของภาคเอกชนรวมถึงนักลงทุนต่างชาติเป็นความท้าทายที่สำคัญ
การระดมทุนเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ภาคธุรกิจต้องเผชิญ นายเหงียน แวน ปิง หัวหน้าคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจกลางของพรรคกล่าวว่า การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการพลังงานเป็นความท้าทายที่ ยากมาก เราจะหาเงินทุนสำหรับโครงการพลังงานในอนาคตได้อย่างไร ในเมื่อหนี้สาธารณะของประเทศยังคงสูง
พร้อมระบุว่า เวียดนามจำเป็นต้องมีงบประมาณ 10,000,000,000 เหรียญสหรัฐฯ เพื่อให้การผลิตพลังงานเพิ่มขึ้นในอัตราที่จำเป็น และในปี 2578 จะเพิ่มสูงถึง 60,000,000,000 เหรียญสหรัฐฯ
นายปิง กล่าวว่าภาคการผลิตไฟฟ้ายังคงทำงานเพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ แต่ก็มีอุปสรรคหลายอย่าง นอกจากนี้ยังกล่าวถึงความจำเป็นในการดึงดูดการลงทุนเพิ่มขึ้นของภาคเอกชน พร้อมกันนี้ เขาได้เรียกร้องให้รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อรับมือกับปัญหาในปัจจุบันและอนาคตในภาคการผลิตไฟฟ้า และเร่งโครงการสำคัญๆ
ด้านรองนายกรัฐมนตรี “ตรินห์ ดินห์ ดัง” ยอมรับว่า การหาจุดกึ่งกลางระหว่างอุปสงค์และอุปทานสำหรับการผลิตไฟฟ้ายังคงเป็นความท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมนี้ การขาดแคลนไฟฟ้าจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและชีวิตของประชาชน
พร้อมระบุว่า รัฐบาลได้ขอให้กระทรวงการต่างประเทศเสนอแผนขาดแคลนไฟฟ้าและแนะนำแนวทางแก้ปัญหาที่เป็นไปได้เช่นการนำเข้าไฟฟ้าจากลาว
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่าในขณะที่โรงไฟฟ้าพลังน้ำมีความสำคัญมาก จึงควรศึกษาถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติที่เป็นไปได้ในการเสนอโครงการต่างๆ
ถึงกระนั้นก็ตาม นายหวง ก๊วก เวียง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้ากล่าวว่า จนถึง ตอนนี้เวียดนาม ยังสามารถรับมือความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงคลื่นความร้อนล่าสุดในภาคเหนือและภาคกลางของประเทศ
มีรายงานเพิ่มเติมว่า การไฟฟ้าเวียดนาม ระบุว่า เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมาการใช้พลังงานในภาคเหนือมีจำนวน 345 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้น 6 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงในช่วงก่อนหน้านี้ในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าอัตราการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในปีที่ผ่านมาถึง 12 เปอร์เซ็นต์
นี่คือ ความท้าทายที่สำคัญของเวียดนาม กับการเติบโตทางเศรษฐกิจในตอนนี้ ก็ต้องจับตาดูต่อไปครับ
