Cr.youtube: Dân Làm Báo TV
กระแสต้าน “ทุนจีน” โผล่อีกจุด!!! โดยล่าสุด มีรายงานจาก “สำนักข่าวบีบีซีภาคภาษาอังกฤษ” ว่า ผู้ประท้วงชาวเวียดนามได้ปะทะกับตำรวจในประเทศเวียดนาม จากเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านแผนการจัดตั้ง “เขตเศรษฐกิจใหม่” เนื่องจากกลัวว่าจะถูกครอบงำโดย “นักลงทุนชาวจีน” โดยบางคน ถือป้ายต่อต้านจีนข้อความว่า “ไม่มีที่ดินให้จีน เช่าแม้แต่วันเดียว”
ด้านตำรวจได้จับกุมผู้ประท้วง 12 คนในกรุงฮานอย และขัดขวางการประท้วงในเมืองอื่นๆ
ซึ่งเหตุการณ์ชุมนุม เกิดขึ้นหลายเมือง เช่น จังหวัดญาจาง ดานัง และโฮจิมินซีตี้
ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมา “รัฐบาลเวียดนาม” ได้เสนอกฎหมายว่า จะอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติเช่าที่ดินในเวียดนามเป็นระยะเวลา 99 ปี เพื่อสร้างแรงจูงใจ และลดข้อจำกัดให้น้อยลง ในความพยายามที่จะส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจในพื้นที่เป้าหมาย
Cr.youtube: Dân Làm Báo TV
Cr.youtube: Mối Hoạ trung Hoa
Cr.youtube: Dân Làm Báo VN
Cr.youtube: Dân Làm Báo TV
โดย”ผู้ประท้วง” สงสัยว่ารัฐบาลคอมมิวนิสต์จะมอบพื้นที่ให้ “นักลงทุน จีน” เช่า ในเขต เศรษฐกิจ3แห่งใน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตกเฉียงใต้ ของประเทศ เนื่องจากพวกเขาหวั่นว่า อาจเป็นข้ออ้างในการควบคุม “เกาะวันดง” ซึ่งตั้งใกล้ชายแดนจีน
จีนเคยปกครองเวียดนามเป็นอาณานิคม และทั้งสองประเทศเคยต่อสู้กันมานาน และยังมีข้อพิพาทในเรื่องหมู่เกาะต่างๆในทะเลจีนใต้ด้วย
นี่เป็นความท้าทายสำหรับ “นายเหงียน ซวน ฟุก (Nguyen Xuan Phuc” นายกรัฐมนตรีเวียดนาม หลังจากรัฐบาลของเขาได้มีคำมั่นสัญญาว่าจะจัดการการทุจริตและฟื้นฟูเศรษฐกิจ
นายเหงียน ซวน ฟุก (Nguyen Xuan Phuc” นายกรัฐมนตรีเวียดนาม
สำหรับโซนเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 3 แห่งนี้ ที่เรียกว่า “มินิสิงคโปร์” มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับเป็น “ฮับไฮเทค”
อย่างไรก็ตามเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว”นายเหงียน ซวน ฟุก” เปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า ระยะเวลา 99 ปีจะลดลง แต่ก็ไม่ได้บอกว่าเป็นระบะเวลาเท่าใด
และเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมารัฐบาลประกาศให้มีการลงมติในร่างกฎหมาย ให้ล่าช้าออกไปเพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม
สำหรับการประท้วงของชาวเวียดนามต่อจีน ได้เกิดขึ้นหลายครั้งเกี่ยวกับข้อพิพาทเรื่องการเดินเรือในทะเลจีนใต้ รวมถึงในปีพ.ศ.2557 ที่ทำให้ “ชาวจีนหนี” ต้องหนีออกจากเวียดนามหลายพันคนหลังจากความรุนแรงกำหนดเป้าหมายไปที่เจ้าของธุรกิจ
นี่คือ ความไม่พอใจรอบใหม่ของชาวเวียดนามที่มีต่อชาวจีน และต้องดูว่า การชุมนุมจะจบลงเมื่อใด และรัฐบาลของ “นายกฯเหงียน ซวน ฟุก” จะแก้ปัญหานี้อย่างไร และรัฐบาลจีน จะมีปฏิกริยาต่อเรื่องนี้อย่างไร ต้องติดตามกันครับ
