กำลังมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก กรณีทุนจีน กำลังสยายปีกรุกเข้าไปในประเทศต่างๆ ของอาเซียน โดยเฉพาะล่าสุดในกัมพูชา ทางเวบไซต์ asiatimes.com วิเคราะห์ว่า “จีน” กำลังก่อสร้างสนามบิน และเมืองบนที่ดินของกัมพูชา กว่า 280,000 ไร่ มาตั้งแต่ปี พ. ศ. 2551 โดยกลุ่ม Tianjin Union Development Group (UDG) ได้มีการทำสัญญาเช่าระยะเวลา 99 ปี บนพื้นที่ประมาณ 20 % ของชายฝั่งทะเลกัมพูชาในราคาเพียง 30 เหรียญสหรัฐฯต่อเฮกตาร์ (หรือ 1 เฮกตาร์ เท่ากับ 6.25 ไร่)
Cr.http://www.atimes.com/
ด้านสมาคมก่อสร้างของกัมพูชา ได้ประเมินค่าใช้จ่ายทั้งหมดของโครงการที่เรียกว่า “Pilot Zone” มีมูลค่ากว่า1.2 แสนล้านบาท และสนามบินจะรองรับผู้ใช้บริการราว 10 ล้านคนต่อปี
บทวิเคราะห์ ระบุว่า เห็นได้ชัดว่าโครงการด้านการท่องเที่ยวที่เรียกว่า Dara Sakor Beachside Resort โครงการในหลายด้านมีลักษณะคล้ายกับอาณานิคมของจีน และนักวิจารณ์ ระบุว่า โครงการนี้กำลังก่อตัวขึ้นในระบบแบบปิดสำหรับทางการจีน นายทุน และนักท่องเที่ยว
Cr.Phnom Penh Post
ด้านชาวบ้านและนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ต่างพากันโต้แย้ง “บริษัทจีน” อย่างจริงจัง โดยอ้างว่า บริษัท Tianjin Union หรือ UDG ได้ใช้ตำรวจ ทหารของกัมพูชา บังคับใช้ข้อเรียกร้องดังกล่าว โดยชาวบ้านบางคนบอกว่า พวกเขาถูกบังคับให้ออกจากที่ดินโดยกองกำลังรักษาความปลอดภัย โดยบ้านถูกรื้อถอน ตามรายงานของกลุ่มลิคาโด้ ซึ่งเป็นกลุ่มสิทธิมนุษยชนในท้องถิ่น
รายงานจากกลุ่ม “C4ADS” นักวิเคราะห์ไม่หวังกำไรชาวอเมริกัน ระบุว่า “ท่าเทียบเรือเกาะกง”ดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการจีนที่กว้างขึ้น เพื่อสร้าง “ฐานทัพเรือ”ทั่วทั้งภูมิภาคนี้ พร้อมระบุว่า “ท่าเรือเกาะกง” ลึกเพียงพอที่จะจอดเรือรบ และใช้เป็นฐานทัพในอนาคตได้
Cr.http://www.atimes.com/
คาร์ลเธเออร์ นักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัย กล่าวว่า “ท่าเรือเกาะกง” มีความสำคัญเพียงเล็กน้อยในปัจจุบัน แต่จะมีอิทธิพลมากขึ้น หากมีการสร้างคลองในประเทศไทย
สำหรับแผนแม่บทของพื้นที่นำร่องนี้ หากสร้างเสร็จสมบูรณ์ จะมีศูนย์การแพทย์ อาคารชุด รีสอร์ท และโรงแรม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ท่าเรือน้ำลึกและสนามบินนานาชาติ
ชาวเกาะกง ประเทศกัมพูชา ที่ได้รับความเดือดจากการถูกไล่ที่ (cr.http://www.licadho-cambodia.org/)
ด้าน นายสม รังสี อดีตผู้นำพรรคฝ่ายค้าน ที่ถูกเนรเทศ ยังเคยออกมาแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องเกาะกง พร้อมระบุว่า ขณะที่ “จีนและกัมพูชา” ได้พยายามที่จะนำเสนอการพัฒนาและการลงทุนในเกาะกงในลักษณะ “win-win” ทั้งสองฝ่าย แต่จริงๆแล้วเป็น “win-win-lose” โดยนักลงทุนจีนและเจ้าหน้าที่กัมพูชา “ชนะ” แต่ชาวกัมพูชาเป็น”ผู้แพ้”
นายสม รังสี อดีตผู้นำพรรคฝ่ายค้าน ที่ถูกเนรเทศ
ในขณะที่ กอนซาเลซ เดวิดสัน ชาวสเปนที่มีประสบการณ์ด้านการเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมในกัมพูชา และถูกเนรเทศออกจากประเทศเมื่อพ.ศ. 2558 กล่าวว่า การลงทุน จะเป็นโครงการที่จะนำมาซึ่งงานนับพันๆแห่งในท้องถิ่น และเปลี่ยนเกาะของกัมพูชาเป็นฮ่องกงในกัมพูชา แต่ผู้คนในท้องถิ่นจะถูกขับไล่ออกไปและวิถีชีวิตของพวกเขาถูกทำลาย
นี่เป็นก้าวย่างของจีนในกัมพูชาที่เป็นรูปเป็นร่างอย่างมาก แต่ก็ต้องดูว่าในที่สุดแล้ว จะเจอบทเรียนแบบที่เจอในมาเลเซีย เมียนม่า หรือ อินโดนีเซีย หรือไม่ ต้องติดตามกันครับ