อัพเดท รถไฟแม่สอด-นครสวรรค์ คาดเปิดปี 73 หรือ 74

731

มาติดตามความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ แม่สอด-นครสวรรค์ ล่าสุดอยู่ระหว่างการพิจารณา EIA หากผ่านความเห็นชอบคาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปีแล้วเสร็จ และเปิดเดินรถไฟได้ในช่วงปี 2573 หรือ 2574 เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ

20 พ.ย.65 มีรายงานจากโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายแม่สอด ตาก กำแพงเพชร นครสวรรค์ ว่าถึงความคืบหน้า โครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ แม่สอด-ตาก ว่า โครงการนี้ ครั้งแรกมีการศึกษาความเหมาะสมเมื่อ ปี 2558 โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย และนำเสนอ ครม. รับทราบ ในครั้งนั้น เป็นการศึกษาความเป็นไปได้ และความเหมาะสมว่าควรพัฒนาโครงการหรือไม่ จะคุ้มค่าหรือไม่ และถ้าทำ แนวเส้นทางจะเป็นอย่างไร

และล่าสุด ในขณะนี้” โครงการได้ส่งผลการศึกษาให้กับ รฟท. และ รฟท. ส่งรายงาน EIA หรือ การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม เข้าสู่การพิจารณาของ คณะกรรมกมร คชก. หาก EIA ได้รับความเห็นชอบ ก็จะสามารถดำเนินการขั้นต่อไปได้ แต่หากไม่เห็นชอบ โครงการนี้ก็พับไป”

โดยโครงการได้แยกการเสนอรายงานเป็น 2 ช่วงตอน คือ ตอนที่ 1 นครสวรรค์-ตาก และ ตอนที่ 2 ตาก-แม่สอด เพื่อให้ช่วงใดได้รับการเห็นชอบก่อน จะได้ดำเนินการต่อได้

หากเดินหน้าต่อ ก็จะมีการของบประมาณในปีถัดไป อาจจะ 2567 หรือ 2568 ตามแต่จังหวะช่วงการเห็นชอบและของบประมาณ มาทำโครงการ “สำรวจและจัดกรรมสิทธิ์” ซึ่งจะเป็นการลงพื้นที่ พบปะเจ้าของ และสำรวจรายละเอียดการเวนคืนตามกฎหมาย รวมทั้งประเมินราคาที่ชัดเจนในการเวนคืนและชดเชย ใช้เวลาภายใน 1 ปี
หลังการสำรวจที่ชัดเจนแล้ว ก็จะมีการจัดทำรายละเอียดเพื่อของบประมาณมาทำการจ่ายเวนคืนตามที่ได้สำรวจไว้ ซึ่งจะดำเนินการภายใน 1 ปีให้แล้วเสร็จ ซึ่งอาจจะอยู่ในช่วงปี 2569-2570

โครงการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่สายใหม่ สายแม่สอด ตาก กำแพงเพชร นครสวรรค์/Cr.ภาพ โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายแม่สอดฯ

จากนั้นจึงจะเข้าสู่การก่อสร้าง ซึ่งแต่ละช่วงตอน จะใช้เวลา 3 ปีแล้วเสร็จ ถ้ามีการนำเสนอโครงการทั้งช่วง 1 และ 2 พร้อมกัน ได้รับความเห็นชอบร่วมกัน ก็จะดำเนินการตลอดเส้นทางครั้งเดียวใน 3 ปี ด้วย 3 สัญญา

ตามผลการศึกษาและแผนงานคาดว่า การเปิดเดินรถไฟ อาจจะดำเนินการได้ในช่วงปี 2573 หรือ 2574

แต่หากมีเงื่อนไขใด ที่การก่อสร้างทำได้เฉพาะช่วงที่ 1 นครสวรรค์จนถึงตาก ก็จะดำเนินการเฉพาะช่วงที่ 1 ก่อน เพื่อให้สามารถดำเนินการในพื้นที่ช่วงที่ 1 ได้ก่อน ส่วนช่วงที่ 2 ที่หากต้องดำเนินการทีหลัง ก็อาจจะต้องมีการทบทวนเรื่องค่าก่อสร้างและความคุ้มทุน เมื่อเวลาเปลี่ยนไปหรือสถานการณ์เปลี่ยนไป

ครับ รถไฟทางคู่สายใหม่ แม่สอด-ตาก-กำแพงเพชร-นครสวรรค์ ระยะทางประมาณ 250 กิโลเมตร จะทำให้เส้นทางรถไฟเชื่อมตะวันออก-ตะวันตก (East-West Corridor) จากแม่สอด-นครพนม มีโครงข่ายสมบูรณ์มากขึ้น

โดยจะเชื่อมต่อกับรถไฟทางคู่ ช่วงนครสวรรค์-บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น และช่วงบ้านไผ่-นครพนม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การขนส่งสินค้า และการสัญจรเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เมียนมา สปป.ลาว เวียดนาม และกัมพูชา สะดวกมากขึ้น

โครงการนี้ไม่ได้มีประโยชน์ในแง่โลจิสติกส์ การค้า การลงทุน การกระจายสินค้าของไทย ไปยังประเทศต่างๆ ทั้งในอาเซียน และเชื่อมต่อไปเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง หรืออื่นๆ เท่านั้น แต่จะช่วยในขยายตัวทางเศรษฐกิจให้ประเทศไทยให้เติบโตแบบก้าวกระโดดอีกด้วย แต่หากโครงการดำเนินการช้าไปก็จะเสียโอกาสอย่างมหาศาลครับ