ไปติดตามการทดสอบ เดินรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง กันบ้าง ล่าสุด มีการทดสอบเดินรถไฟฟ้า จากถนนศรีนครินทร์ – ถนนลาดพร้าว เป็นครั้งแรก จำนวน 16 สถานี เผย ผลทดสอบผ่านไปได้ด้วยดี และได้รับการตอบรับจากประชาชน คาดเปิดบริการตลอดทั้งสายต้นปี 2566 เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันดูครับ
12 ต.ค.65 การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. รายงาน การทดสอบเดินรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง จากถนนศรีนครินทร์ – ถนนลาดพร้าว เป็นครั้งแรก เมื่อ 12 ต.ค.ที่ผ่านมาซึ่งเป็นการทดสอบจำนวน 16 สถานี จากทั้งหมด 23 สถานี ว่า ขบวนรถไฟฟ้าออกวิ่งจากศูนย์ซ่อมบำรุง (Depot) เข้าสู่ถนนศรีนครินทร์ ผ่านสถานีศรีอุดม สถานีสวนหลวง ร.9 สถานีศรีนครินทร์38 สถานีศรีนุช สถานีกลันตัน สถานีหัวหมาก สถานีศรีกรีฑา สถานีแยกลำสาลี เข้าสู่ถนนลาดพร้าว ผ่านสถานีบางกะปิ สถานีลาดพร้าว 101 สถานีมหาดไทย สถานีลาดพร้าว 83 สถานีลาดพร้าว 71 สถานีโชคชัย 4 สถานีภาวนา มุ่งหน้าสู่สถานีปลายทาง สถานีลาดพร้าว ซึ่งเป็นสถานีที่ผู้โดยสารจะสามารถเปลี่ยนเส้นทางไปยัง สถานีลาดพร้าวของรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน)
รถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง
สำหรับการทดสอบครั้งนี้ ใช้ขบวนรถที่จะเปิดให้บริการจริง รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวทันสมัย ภายในห้องโดยสารกระจกกว้างสามารถชมทัศนียภาพภายนอกได้อย่างชัดเจน มีจำนวน 4 ตู้ต่อขบวน ตัวรถกว้าง 3.16 เมตร น้ำหนัก 14,500 – 15,000 กิโลกรัมต่อตู้ โดยระยะแรกจะเปิดให้บริการ 4 ตู้ต่อขบวน รองรับผู้โดยสารได้ 17,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง และสามารถเพิ่มตู้โดยสารได้สูงสุด 7 ตู้ต่อขบวน จะรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 28,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง
โดยมีรายงานเพิ่มเติมจาก โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ว่า การทดสอบเดินรถผ่านไปได้ด้วยดี อีกทั้งยังได้รับการตอบรับที่ดี จากประชาชน ที่พักอาศัยตามแนวสายทางรถไฟฟ้า และพื้นที่ข้างเคียง
สำหรับรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง ปัจจุบันมีความก้าวหน้างานโยธา 96.96% ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 96.56% และความก้าวหน้าโดยรวม 96.79% มีระยะทางทั้งสิ้น 30.4 กิโลเมตร จำนวน 23 สถานี คาดทดสอบการเดินรถเสมือนจริงในอีกไม่นานนี้ ก่อนเปิดให้บริการตลอดทั้งสายต้นปี 2566
ครับ รถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง เป็นระบบใหม่ ที่ทันสมัยในประเทศไทย หากเปิดใช้บริการ นอกจากจะสร้างความสะดวกแก่ประชาชน และช่วยแก้ไขปัญหาจราจรแล้ว ยังสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และยิ่งนำประเทศไทยสู่ความเป็นสมัยใหม่ยิ่งขึ้นครับ
