“รถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ไทย”มาแรง บุกตลาดมาเลเซีย

272

 

การทำตลาดยานยนต์ไฟฟ้าของไทยในต่างประเทศกันบ้าง ที่ล่าสุด บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน). EA ส่ง EA Mobility Holding จับมือพันธมิตร บ.CFM ในมาเลเซีย ลงนามร่วมลงทุนในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า และระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรในประเทศมาเลเซีย หวังพัฒนามาเลเซียสู่การเป็นสังคมไร้คาร์บอน เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ

26 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดงานพิธีลงนามความร่วมมือเพื่อที่จะร่วมลงทุนในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า และระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรในประเทศมาเลเซียโดยมี Mr.Datuk Wira Justin Lim Hwa Tat กรรมการบริหาร,Computer Forms (Malaysia) Berhad (CFM) และนายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ร่วมในพิธีลงนาม

ปัจจุบันประเทศมาเลเซีย มีนโยบายด้านพลังงานในการลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล มุ่งเน้นให้มีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นถึง 37% ตามแผนนโยบาย ในปี 2022-2040 อีกทั้งการเข้าร่วม COP26 หรือ อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 26 ของทางรัฐบาล เพื่อตอบสนองต่อนโยบายแห่งชาติในเวทีโลก เข้าสู่สังคมไร้มลพิษ จึงเป็นที่มาของการร่วมมือเพื่อลงทุนพัฒนาระบบการคมนาคมไฟฟ้าแบบครบวงจรในครั้งนี้ โดยทางบริษัท CFM ได้เห็นถึงความสามารถและความเชี่ยวชาญของ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาด และระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรในประเทศไทย ผ่านผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายครอบคลุมเกี่ยวกับการคมนาคมแบบไร้มลพิษ ตั้งแต่การพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่ การผลิตยานยนต์ไฟฟ้า เช่น รถโดยสารไฟฟ้า และเรือโดยสารไฟฟ้า และการให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า ซึ่งมีเทคโนโลยีระบบ Ultra Fast Charge Technology สามารถอัดประจุไฟฟ้าสู่ยานยนต์ทุกชนิด 80% ในระยะเวลาเพียง 15-20 นาที

 

บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน). EA ส่ง EA Mobility Holding จับมือพันธมิตร บ.CFM ในมาเลเซีย ลงนามร่วมลงทุนในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า และระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรในประเทศมาเลเซีย

 

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ฯ เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมมือกับ CFM เพื่อร่วมลงทุนในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนไร้มลพิษ นับเป็นก้าวที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของ EA ที่ได้รับการยอมรับในการนำนวัตกรรม Ultra Fast Charge Technology ของบริษัทฯ ผ่านผลิตภัณฑ์ที่พัฒนา และผลิตในประเทศไทย เข้าสู่ตลาดขนส่งมวลชนของประเทศมาเลเซีย ก่อให้เกิดการร่วมลงทุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ร่วมกันในอนาคต สามารถผลักดันในบริษัทขยายตลาดสู่ภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค และตลาดโลกต่อไปในอนาคต

สำหรับการร่วมลงทุนในครั้งนี้นั้นในระยะแรก CFM จะช่วย บริษัทร่วมทุนทำตลาดยานยนต์ไฟฟ้า และระบบอัดประจุไฟฟ้าในประเทศมาเลเซีย โดยปัจจุบันได้มีการลงนามในสัญญาจะซื้อจะขายรถโดยสารไฟฟ้าของกลุ่ม EA จำนวน 200 คัน ให้กับ Gemilang International Limited (GML) ตลอดจนติดตั้งสถานีอัดประจุฯ Ultra-fast charge ที่ใช้เวลาอัดประจุเพียง 15-20 นาที ซึ่งเหมาะกับรถโดยสารสาธารณะ เนื่องจากจะช่วยให้การเดินรถเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

ในระยะที่สอง จะมีการขยายตลาดการคมนาคมขนส่งไฟฟ้าไปทั่วทั้งมาเลเซีย ผ่านผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม EA ทั้งรถโดยสารไฟฟ้า เรือไฟฟ้า และรถบรรทุกไฟฟ้าในอนาคต รวมทั้งร่วมกันศึกษาขยายฐานการผลิตผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในประเทศมาเลเซีย

การร่วมมือครั้งนี้ นับว่าเป็นโอกาสที่ดี ของทั้ง 2 บริษัท ที่ได้ร่วมกันพัฒนาระบบขนส่งมวลชนภายในตัวเมืองให้มีความยั่งยืน ปลอดมลพิษมากขึ้น ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ยังถือได้โอกาสสำคัญของทั้ง EMH (EA Mobility Holding ) และ CFM ที่ได้ร่วมสร้างปรากฎการณ์ใหม่ในการยกระดับระบบขนส่งด้วยยานยนต์ไฟฟ้า ที่เกิดจากความร่วมมือกันในระดับประเทศ เพื่อสร้างการใช้พลังงานสะอาดเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนเป็นฐานในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของโลกในอนาคต

และเป็นก้าวย่างสำคัญของบริษัทไทย ที่จะมีบทบาทสำคัญ และในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญอาเซียน ซึ่งจะมีประโยชน์ทั้งต่อไทย และชาติในอาเซียน ด้วยครับ