ไปที่รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมากันบ้าง ล่าสุด กะเหรี่ยง KNU และ DKBA หารือเกี่ยวกับแนวทางรวมสองกลุ่มกองกำลังเข้าด้วยกัน หลังจากการแยกกันอยู่นานนับทศวรรษ เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ
4 ส.ค.65 สำนักข่าว Chindwin News รายงานว่า การแยกกันอยู่นานนับทศวรรษอาจสิ้นสุดลงในไม่ช้าสำหรับสองกลุ่มติดอาวุธที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเมียนมาร์
เนื่องจากสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) และกองกำลังกะเหรี่ยงประชาธิปไตยฝ่ายพุทธ (DKBA) ได้พบกันเมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อหารือเกี่ยวกับ 5 ประเด็นโรดแม็บ เพื่อรวมสองกลุ่มกองกำลังเข้าด้วยกัน .
ตามข้อตกลงข้อที่สอง ข้อตกลงในการรวมกองกำลังทั้งสองได้บรรลุผลด้วยวาจา และเสริมว่าจะมีการสร้างและปลูกฝังตราสัญลักษณ์กองทัพชั่วคราว สำหรับทหารแนวหน้า
อย่างไรก็ตาม DKBA ออกแถลงการณ์ไม่ยอมรับข้อที่ 5 ในเอกสารข้อตกลง ซึ่งระบุว่า DKBA ซึ่งนำโดยผู้บัญชาการทหารสูงสุด นายพล ส่ะติล (สาตี) จะต่อสู้กับระบอบการปกครองของรัฐบาลทหารร่วมกับกองกำลัง KNU หากการเจรจากับระบอบเผด็จการทหารล้มเหลวและระบอบการปกครองของรัฐบาลทหารเริ่มโจมตีอย่างหนัก
กะเหรี่ยง KNU และ DKBA หารือเกี่ยวกับแนวทางรวมสองกลุ่มกองกำลังเข้าด้วยกัน/photo credit :KIC
ครับ กะเหรี่ยงต่อสู้กับทหารเมียนมา มากว่า 70 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491 หลังจากอังกฤษคืนเอกราชให้กับเมียนมา
โดยเฉพาะช่วงปี พ.ศ. 2519-2543 นายพลโบเมียะ ได้ทำให้ ศูนย์บัญชาการหรือฐานที่มั่นอยู่ที่ค่ายมาเนอปลอ รัฐกะเหรี่ยง ใกล้ชายแดนไทย เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และเป็นที่หวั่นเกรงของทหารเมียนมา จนเข้าปราบเท่าไหรก็ไม่แตก ทหารเมียนมาต้องสังเวยทั้งชีวิต และทรัพย์สินจำนวนมาก ก็ไม่สำเร็จ
จนทหารเมียนมา ได้ส่งพระสงฆ์รูปหนึ่งเข้าไปชักชวน ให้ผู้นำกะเหรี่ยงสายพุทธ แยกตัวจาก KNU ที่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ จากนั้น ได้แยกตัวไปจัดตั้งกองกำลังใหม่ เป็นกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธ หรือ Democratic Karen Buddhist Association — DKBA เมื่อ พ.ศ. 2537
ต่อมา ได้รับมอบอาณาเขตพื้นที่ส่วนหนึ่งให้ปกครองตนเองเป็นการแลกเปลี่ยนที่ยอมร่วมมือกับรัฐบาล
และกองกำลัง DKBA นี้เอง ที่มีส่วนสำคัญช่วยรัฐบาลทหารเมียนมายึดกองบัญชาการเคเอ็นยูที่ค่ายมาเนอพลอได้สำเร็จ
บทเรียนครั้งนั้น จึงสะท้อนได้อย่างดีว่า หากกะเหรี่ยงสามัคคีกันแล้ว ไม่มีทางที่ศัตรูจะเอาชนะได้ แต่หากแตกความสามัคคีกันแล้ว ค่ายที่แข็งแกร่งขนาดไหนก็ไม่ต้านทานได้
การมาจับมือกันครั้งนี้ จึงเป็นที่ดี ที่จะนำความแข็งแกร่งนั้นกลับมาอีกครั้ง
แต่อาจจะไม่เพียงพอ หากไม่นำคนที่มีความมุ่งมั่น อย่างมังกรสาละวิน นายพลเนอดา โบเมียะ กลับมาร่วมด้วยครับ/
