ลือรบ.เมียนมา เตรียมประหารนักโทษอีก 41 ราย

231

 

ไปที่เมียนมากันต่อ มีรายงานจากสือเมียนมาว่า ลือว่า รัฐบาลเผด็จการทหาร เตรียมประหารชีวิตนักโทษการเมืองอีก 41 ราย แม้จะมีการคัดค้านจากนาชาติ และการเคลื่อนไหวตอบโต้ของชาวเมียนมาในหลายพื้นที่ หลังการแขวนคอ 4 นักเคลื่อนไหว ก่อนหน้านี้ เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ

26 ก.ค.65 สำนักข่าว Chindwin News Agency รายงานว่า สองวันหลังจากการประหารนักโทษการเมืองสี่ราย มีข่าวเกิดขึ้นอีกครั้งในเมืองย่างกุ้งว่ารัฐบาลเผด็จการทหาร กำหนดให้ประหารชีวิตนักโทษการเมืองอีก 41 คน แต่ยังไม่สามารถตรวจสอบรายงานข่าวนี้ได้อย่างชัดเจน

โดยแหล่งข่าวอ้างว่าอ้างจากตัวนักโทษเองจากเรือนจำ Insein และให้ข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับอำนาจของเรือนจำ Insein ในการเตรียมประหารนักโทษการเมือง 41 ราย

นักโทษ 41 ราย สวมชุดสีเหลืองและและถูกจัดให้อยู่กับนักโทษคนอื่นๆ ในห้องขัง อีก 100 คน

และต่อมา นักโทษ 41 คนในชุดสีเหลือง ถูกย้ายไปยังห้องขังอื่นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการประหารชีวิต

นักเคลื่อนไหวทางการเมืองรายหนึ่งซึ่งกำลังหลบหนี และไม่ต้องการเปิดเผยชื่อของเขา กล่าวว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นไปได้เนื่องจากรัฐบาลเผด็จการแพ้การต่อสู้ทางการฑูตที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ

ด้าน สำนักข่าว The Irrawaddy รายงานเพิ่มเติมว่า มีรายงานที่น่าตกใจว่านักโทษการเมืองที่ถูกตัดสินประหารชีวิตในเรือนจำอินเส่งของย่างกุ้ง ถูกแยกตัวออกจากผู้ต้องขังคนอื่นๆ จำนวน 41 ราย จากทั้งหมด 76 รายของนักโทษประหาร ที่ถูกคุมขังในเรือนจำอินเส่ง

พร้อมระบุว่า สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง-พม่า กล่าวเมื่อวันพุธที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า อีก 76 คนที่เหลือ ซึ่งรวมถึงนักศึกษามหาวิทยาลัย เยาวชน และผู้หญิงอีก 8 คน มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับวิสามัญฆาตกรรมด้วยน้ำมือของระบอบการปกครอง เช่นเดียวกับนักเคลื่อนไหวสี่คนที่ถูกแขวนคอในช่วงสุดสัปดาห์
ในขณะที่ภายในเมียนมา โดยเฉพาะในย่างกุ้ง มีการเคลื่อนไหวตอบโต้ต่อรัฐบาลทหารหลายพื้นที่ ต่อกรณีการแขวนคอ 4 นักเคลื่อนไหว ทั้งการประท้วงกลุ่มเล็กๆ การติดป้ายผ้าตามจุดต่าง เช่น ข้อความว่า ฆ่าทหารให้พ้นทาสทหาร
ครับกรณีการแขวนคอ 4 นักเคลื่อนไหว และข่าวลือว่า จะมีการสั่งประหารเพิ่มอีก แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลทหาร ได้ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด และเลยจุดการเจรจาไปแล้ว

จะเข้าสุ๋โหมดรุนแรงที่แท้จริง และสอดคล้องกับคำเตือนของสถานทูตสหรัฐฯในย่างกุ้ง ก่อนหน้านี้ ดังนั้นประเทศไทยต้องรับมือผลกระทบจากเรื่องนี้ดีๆ และควรงดเดินทางไปในเมียนมาในขณะนี้ครับ