นายพลเนอดา โบเมียะ แฉเหตุแท้จริง “บินรบพม่า”รุกล้ำเขตไทย

454

ไปติดตามกรณีทหารพม่ารุกล้ำพื้นที่ประเทศไทยกันต่อ ล่าสุด พล.ต. เนอดา โบ เมียะ ผู้บัญชาการ กองกำลังกะเหรี่ยง KNDO ชี้ เหตุเครื่องบินพม่ารุกล้ำเขตไทย เพราะ คนขับเครื่องบินเป็นชาติอื่น ไม่ใช่คนพม่า เลยไม่รู้จักเขตแดน พร้อมระบุ ต้องใช้เครื่องบินรบปฎิบัติการเพื่อยึดฐาน อูแกร้ท่า คืนหลังจากถูกกะเหรี่ยงยึด และเสียชีวิตและบาดเจ็บประมาณ 200 รายแล้ว เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 สำนักข่าวชายขอบ ได้สัมภาษณ์ พล.ต. เนอดา โบ เมียะ ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์กะเหรี่ยงแห่งชาติ (Karen National Defense Organization : KNDO ) แห่งสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง(Karen National Union:KNU) ซึ่งกำลังร่วมกับกองกำลังปลดปล่อยประชาชนกะเหรี่ยง (Karen National Liberation Army-KNLA) กองพล 6 และพันธมิตร ต่อสู้กับทหารกองทัพพม่าเพื่อยึดฐานทหารพม่าใกล้หมู่บ้านอูแกร้ท่า บริเวณชายแดนไทยตรงข้ามกับอำเภอพบพระ จังหวัดตาก

โดย พล.ต. เนอดา โบ เมียะ เผยว่า ปฎิบัติการครั้งนี้เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน โดยสามารถยึดฐานทหารพม่าที่อูแกร้ท่าได้ในวันที่ 30 มิถุนายน ทำให้ทหารพม่าต้องใช้เครื่องบินรบปฎิบัติการเพื่อยึดฐานกลับคืน แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังยึดไม่ได้เนื่องจากกองกำลังกะเหรี่ยงและพันธมิตรได้กระจายตัว จึงยังเผชิญหน้ากันอยู่

 

 


พล.ต. เนอดา โบ เมียะ ผู้บัญชาการ กองกำลังกะเหรี่ยง KNDO/Cr.ภาพ KNDO – Karen National Defense Organization 

พลตรีเนอดา เมียะ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ต้องยึดฐานทหารพม่าแห่งนี้เนื่องจากเดิมเคยเป็นพื้นที่ของ KNU แต่ในปี พ.ศ. 2538 ทหารพม่าได้ร่วมกับทหารดีเคบีเอเข้ายึดพื้นที่
ที่ผ่านมาเราพยายามส่งสัญญาณให้ทหารพม่าออกไป แต่เขาก็ไม่ฟัง และพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญและอยู่ใกล้กับพื้นที่อูเกท่า ซึ่งเป็นฐานใหญ่ของทหารพม่า ทำให้เขาสามารถส่งกำลังพลมาได้ตลอด

พร้อมระบุว่า จริงๆแล้วเป้าหมายของกะเหรี่ยง ไม่ใช่แค่ยึดค่ายแห่งนี้เท่านั้น แต่เราต้องการยึดพื้นที่ตลอดชายแดนตั้งแต่กองพล 5 (ตรงข้ามจังหวัดแม่ฮ่องสอน) ไปจนถึงกองพล 4 (ตรงข้ามกับจังหวัดกาญจนบุรี) คืนมาทั้งหมด แม้ตอนนี้กองทัพพม่าจะส่งกำลังเข้ามาเสริมจำนวนมาก แต่เราก็จะสู้ต่อไป

และว่า ทหารพม่าเสียหายหนักโดยมีทหารเสียชีวิตและบาดเจ็บประมาณ 200 ราย ส่วนกองกำลังกะเหรี่ยงเสียชีวิตประมาณ 9-10 ราย

พลตรีเนอดา เมียะ ยังชี้ว่า ตนเองคิดว่าเหตุผลจริงๆ กรณีการรุกล้ำเขตไทยของเครื่องบินทหารพม่า คือคนขับเครื่องบินไม่ใช่คนพม่าแต่คนรัสเซีย เขาเลยไม่รู้จักเขตแดน เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่เขาใช้เครื่องบินรบต่อสู้กับทหารกะเหรี่ยงที่ชายแดนด้านแม่น้ำสาละวิน และมีเครื่องบินรบเข้ามาที่บ้านท่าตาฝั่ง (อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน) นักบินเหล่านั้นก็ไม่ใช่คนพม่า เพราะคนพม่าไม่เก่งขนาดนั้น เครื่องบินเหล่านั้นซื้อมาจากรัสเซียและมีชาวรัสเซียมาฝึกสอนให้ จริงๆแนวชายแดนควรเป็นเขตห้ามบิน เรื่องนี้ควรต้องเตือนกองทัพพม่า

ส่วนปฎิบัติการสู้รบครั้งนี้จะยืดเยื้ออีกนานหรือไม่ ผู้บัญชาการ KNDO กล่าวว่า ก็ต้องสู้กันต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งขณะนี้เรามีกลุ่ม PDF หรือ กองกำลังพิทักษ์ประชาชน หรือ The People’s Defense Force-PDF เข้าร่วมด้วยจำนวนมาก พวกเขาไม่มีบ้านอยู่เพราะโดนทหารพม่าทำร้ายและฆ่า ดังนั้นจึงต้องหลบมาอยู่ตามแนวชายแดน

ครับ แนวชายแดนเป็นพื้นที่อ่อนไหว โดยเฉพาะการใช้เครื่องบินในการโจมตีฝ่ายต่อต้าน เนื่องจากมีโอกาสสูงที่กระสุนจะพลาดข้ามมาตกฝั่งไทย และเป็นอันตรายต่อชีวิตคนไทย ซึ่งจริงๆแล้ว รัฐบาลไทย ต้องรีบประกาศให้เป็นพื้นที่ no-fly zone หรือเขตห้ามบิน เพราะน่าจะช่วยสร้างหลักประกันในชีวิตของคนไทย และป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย ได้ในระดับหนึ่ง

แทนที่ จะไปเชื่อ คำขอโทษจากทหารพม่า ที่ทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ครับ