ไทย-อินเดีย แนบแน่น! ผนึกร่วมการลาดตระเวนทะเลอันดามัน

286

 

มาติดตามความร่วมมือด้านการทหารไทย-อินเดียกันบ้าง ล่าสุด ทัพเรือภาคที่ 3 ส่งเรือหลวงสายบุรี และเครื่องบิน Dornier – 228 (ดอร์เนียร์ -228) เข้าร่วมการลาดตระเวนร่วมระหว่าง ทร.ไทย – ทร.อินเดีย ครั้งที่ 33 พื้นที่รอยต่อเขตแดนทางทะเลของทั้ง 2 ประเทศ ด้านฝั่งทะเลอันดามัน เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ

5 พ.ค.65 มีรายงานจากกองทัพเรือ ว่า ระหว่างวันที่ 4 – 7 พฤษภาคม 2565 กองทัพเรือมอบหมายให้ทัพเรือภาคที่ 3 จัดกำลังเข้าร่วมการลาดตระเวนร่วมระหว่าง ทร.ไทย – ทร.อินเดีย ภายใต้รหัส INDO – THAI CORPAT ครั้งที่ 33 ณ พื้นที่รอยต่อเขตแดนทางทะเลของทั้ง 2 ประเทศ ด้านฝั่งทะเลอันดามัน
โดยในครั้งนี้ ทัพเรือภาคที่ 3 ได้ส่งเรือหลวงสายบุรี เข้าร่วมการลาดตระเวนทางทะเล พร้อมด้วยเครื่องบินลาดตระเวนแบบที่ 1 (Dornier-228) เข้าร่วมการลาดตระเวนทางอากาศ ส่วนกองทัพเรืออินเดียได้ส่งเรือ INS KARMUK (คาร์มุค) (P64) ซึ่งเป็นเรือควอเวท ชั้น KORA-CLASS เข้าร่วมในการลาดตระเวนทางทะเล และส่งเครื่องบิน Dornier-228 เข้าร่วมการลาดตระเวนทางอากาศด้วยเช่นกัน
การลาดตระเวนร่วมระหว่างกองทัพเรือไทยและกองทัพเรืออินเดียนั้น เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2548 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง (ครั้งที่ 1 จะอยู่ห้วงเดือนพฤษภาคม และครั้งที่ 2 จะอยู่ในห้วงเดือนพฤศจิกายน) โดยได้มีการสลับกันเป็นเจ้าภาพในแต่ละครั้ง ทั้งนี้กองทัพเรือได้มอบหมายให้ทัพเรือภาคที่ 3 จัดกำลังเข้าร่วมการลาดตระเวนมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี
โดยตลอดห้วงของการลาดตระเวน กำลังทางเรือของทั้ง 2 ประเทศ จะทำการลาดตระเวนทั้งทางเรือและทางอากาศในน่านน้ำของตน ซึ่งจะมีการติดต่อสื่อสารกันตลอดเวลา

ทั้งนี้จะมีการนัดพบกันที่จุดนัดพบต่างๆ ตามแนวเขตแดนของทั้ง 2 ประเทศในเวลาเช้าของแต่ละวัน เพื่อทำการฝึกร่วมกัน อาทิ การฝึกการติดต่อสื่อสารทางทัศนสัญญาณด้วยธงสองมือ (SEMAPHORE) การฝึกการติดต่อสื่อสารโคมไฟบังคับทิศ (FLASHING EXCERCISE) การฝึก PHOTO EXERCISE และการฝึกการติดต่อสื่อสารระหว่างเรือกับอากาศยาน เป็นต้น โดยจะไม่มีการส่งกำลังพลเยือนระหว่างเรือแต่อย่างใด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19
ครับ การลาดตระเวนร่วมระหว่างกองทัพเรือไทย และกองทัพเรืออินเดีย ได้มีการดำเนินการที่ต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน นับว่าเป็นการกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกองทัพเรือทั้ง 2 ประเทศ ให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

อีกทั้งยังทำให้กำลังพลของกองทัพเรือได้รับความรู้และประสบการณ์ในการปฏิบัติงานระหว่างประเทศ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานตลอดจนส่งเสริมภาพลักษณ์ของกองทัพเรือในระดับนานาชาติ ต่อไป ครับ