สถานการณ์รัสเซียบุกโจมตียูเครน ล่าสุด รัสเซียปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มฐานทัพ และสนามบินหลายแห่ง โดยมีรายงานว่า ได้ทำลายเป้าหมายทางทหารในยูเครนไป 70 แห่ง ด้านกองทัพยูเครนอ้างว่ายิงอากาศยานของรัสเซียตกไป 6 ลำ พร้อมระบุ ทหารและพลเรือนชาวยูเครนเสียชีวิตรวม 137 ราย
ด้านสหรัฐฯ เคลื่อนกำลังพลอีก 7,000 นายไปยังยุโรป พร้อมลั่นย้ำจะปกป้องทุกตารางนิ้วของดินแดนพันธมิตร NATO เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ
25 ก.พ.65 BBC Thai รายงานว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนแถลงว่า ทหารและพลเรือนชาวยูเครนเสียชีวิตรวม 137 ราย จากการรุกรานของรัสเซียเมื่อ 24 ก.พ. ขณะที่สำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติประเมินว่าการโจมตีทางอากาศต่อยูเครนทำให้ประชาชนกว่า 100,000 คน ต้องกลายเป็นผู้อพยพ
รายงานข่าว ระบุด้วยว่า การตัดสินใจของประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน นำมาซึ่งการประณามจากชาติตะวันตกและการตอบโต้ด้วยมาตรการคว่ำบาตร และประชาชนชาวรัสเซียส่วนหนึ่ง มีผู้ประท้วงอย่างน้อย 735 คน ถูกจับกุมในรัสเซียหลังออกมาประท้วงต่อต้านสงครามใน 40 เมืองทั่วประเทศ ในจำนวนนี้กว่า 330 คน ถูกจับกุมในกรุงมอสโก
ตลอดวันที่ผ่านมา สถานการณ์เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา เริ่มจากเช้าตรู่ กองทัพรัสเซียบุกเข้ายูเครนจากรอบทิศทาง โดยทิศเหนือของประเทศผ่านมาทางเบลารุส ทิศใต้มาจากไครเมีย และทิศตะวันออกมาจากพื้นที่ดอนบาส ที่ฝ่ายกบฏยึดครอง โดยการปะทะกันส่วนใหญ่อยู่ทางฝั่งตะวันออก
ผู้อยู่อาศัยในคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ บอกว่าเห็นกระจกของอาคารที่พักอาศัยสั่นสะเทือนจากแรงกระสุนและระเบิดจากการสู้รบระหว่างกองทัพยูเครนและรัสเซีย
มีการปะทะเกิดขึ้นรอบนครหลวงเคียฟด้วย และเมืองท่าที่อยู่ติดกับแบล็กซี คือ โอเดสซา และ มาริยูปอล
รัสเซียปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มฐานทัพ และสนามบินหลายแห่ง โดยฝั่งยูเครนยิงตอบโต้อย่างแข็งขันบริเวณสนามบินหลักใกล้กับกรุงเคียฟ
.
กองทัพยูเครนอ้างว่ายิงอากาศยานของรัสเซียตกไป 6 ลำ ขณะที่รัสเซียอ้างว่าทำลายเป้าหมายทางทหารในยูเครนไป 70 แห่ง ด้านประชาชนชาวยูเครนต่างวิ่งเข้าหาที่ปลอดภัย หรือ เดินทางออกจากเมืองใหญ่ โดยเฉพาะผู้คนนับหมื่นที่เดินทางออกจากนครหลวง
.
นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่ 4 ทุ่ม ถึง 7 โมงเช้า มีผลตั้งแต่วันนี้
ในขณะที่ สำนักข่าว THE STANDARD รายงานว่า เมื่อ24 กุมภาพันธ์ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มีคำสั่งเคลื่อนกำลังพลอีก 7,000 นายไปยังยุโรป หลังรัสเซียสั่งเปิดฉากปฏิบัติการในยูเครน
โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน เน้นย้ำจะปกป้องทุกตารางนิ้วของดินแดนพันธมิตร NATO ด้วยอำนาจทางทหารของสหรัฐฯ อย่างเต็มกำลัง
โดยเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงกลาโหมระบุ ปฏิบัติการทางทหารดังกล่าวของรัสเซียในยูเครนนับเป็นหนึ่งในการโจมตีทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
สำหรับสาเหตุที่มีการบุกยูเครนครั้งนี้ เนื่องจาก ผู้นำยูเครน คือ เซเลนสกี เรียกร้องให้ผู้นำของนาโตกำหนดให้ยูเครนเข้าเป็นประเทศสมาชิก
ซึ่งเรื่องนี้ ปูติน ผู้นำของรัสเซีย หวั่นว่า จะเป็นแผนของชาติตะวันตกในการโอบล้อมรัสเซีย ด้วยการนำประเทศยุโรปตะวันออกทั้งหมดเข้าเป็นสมาชิก ซึ่งรัสเซีย ได้มีการแสดงปฏิกริยาด้านการทหารมาแล้ว 2 ครั้งในปีที่แล้ว ด้วยการส่งทหารประมาณ 100,000 นายมายังชายแดนยูเครน ซึ่งคาดว่าเป็นการส่งสัณญาณเตือนยูเครน จนกระทั่งส่งเข้าไปจริงในเหตุการณ์ครั้งนี้
ครับ สถานการณ์นี้อยู่ในภวะที่ล่อแหลม ซึ่งอาจจะนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ได้สูง เพราะจุดนี้เป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญทั้งของฝ่ายสหรัฐฯและยุโรป กับฝ่ายของรัสเซีย ดังนั้นก็ต้องแตกหักกันไปข้างหนึ่ง
และประการสำคัญสงครามนั้น เริ่มง่าย แต่จบยาก ครับ