กะเหรี่ยงขออาวุธต่อต้านอากาศยานสอยเครื่องบินทห.อองหล่าย

266

ไปที่รัฐกะเหรี่ยงกันต่อ ล่าสุด เครือข่ายสันติภาพกะเหรี่ยง ได้แถลงการณ์ประณาม ทหารอองหล่ายโจมตีทางอากาศต่อชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่อุทยานสันติภาพสาละวิน ที่ทำให้พลเรือนเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 6 ราย รวมทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ พร้อม เรียกร้องนานาชาติ ส่งอาวุธต่อต้านอากาศยาน เข้าไปช่วยป้องกันการโจมตี จากเครื่องบินของกองทัพเมียนมา เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ

 

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 เครือข่ายสันติภาพกะเหรี่ยง (Karen Peace Support Network) ได้แถลงการณ์ประณาม การโจมตีทางอากาศ ของทหารอองหล่าย

โดยระบุว่า กองทัพเมียนมาร์ทำการโจมตีทางอากาศที่หมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่อุทยานสันติภาพสาละวิน ((Salween Peace Park : SPP) บริเวณตรงข้าม อ.แม่สะเรียง และ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน

ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 6 ราย โดยมีเด็ก ผู้สูงอายุ รวมอยู่ด้วย

การโจมตีเกิดขึ้นในด้านตะวันออกของพื้นที่อุทยานสันติภาพสาละวิน (SPP ) ที่หมู่บ้านต่า ดวี โก่ ( Ta Dwee Koh ) หมู่บ้านมาต่อ (Ma Htaw ) เขตเดวโล (Dweh Lo ) เมืองมูตรอ รัฐกะเหรี่ยง

ในเวลาเดียวกัน ทหารอองหล่าย ได้ทิ้งระเบิดสามลูกในหมู่บ้านอื่นในใจกลางของ อุทยานสันติภาพสาละวิน (SPP )แต่ ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

แถลงการณ์ ระบุด้วยว่ กองทัพเมียนมาร์ ซึ่งเข้ายึดครองประเทศเมียนมา ได้ดำเนินการโจมตีทางอากาศ ทิ้งระเบิด และยิงกระสุนปืนใหญ่ตามอำเภอใจอย่างต่อเนื่องในสวนสันติภาพสาละวิน ตั้งอยู่ในเมืองมูตรอ รัฐกะเหรี่ยง ทุกวันตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา

นอกจากเหตุการณ์ในเช้าที่ 5 ก.พ.2565 ก่อนหน้านี้มีการ โจมตีเมื่อ วันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา เมื่อกองกำลังรักษาชายแดน (BGF) ซึ่งอยู่ภายใต้กองทัพเมียนมา ได้ยิงปืน ค.เข้าไปในหมู่บ้านตีลอที ในด้านตะวันออกของอุทยานสันติภาพสาละวิน และสังหารเด็กทารกอายุ 3 เดือนและหญิงอายุ 20 ปีในอุทยานสันติภาพสาละวิน

นอกจากนี้ ยังทำการโจมตีทางอากาศในค่ายกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNLA ของกะเหรี่ยง KNU ริมแม่น้ำสาละวินเมื่อวันที่ 31 มกราคม ซึ่งเป็นวันปฏิวัติกะเหรี่ยง ทำลายห้องสมุดหนึ่งหลังและบ้านหลายหลัง ซึ่งบริเวณนี้อยู่ใกล้กับหมู่บ้านกะเหรี่ยงและค่ายผู้พลัดถิ่นจำนวนมาก

 

ทหารอองหล่ายโจมตีทางอากาศต่อชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่อุทยานสันติภาพสาละวิน ที่ทำให้พลเรือนเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 6 ราย/credit:Salween Peace Park

โดยสรุปตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จนถึงปัจจุบัน มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย และได้รับบาดเจ็บไม่น้อยกว่า 26 ราย รวมทั้งผู้สูงอายุ เด็ก และสตรี จากเหตุระเบิดและการโจมตีเหล่านี้

พร้อมระบุว่า ประชาชนในอุทยานสันติภาพสาละวินหวังว่าประชาคมระหว่างประเทศจะเข้ามาแทรกแซงและช่วยขับไล่เผด็จกาทหารเมียนมา และกองทัพเมียนมาที่พยายามเข้ายึดครองประเทศอย่างผิดกฎหมาย สังหารพลเรือนนับไม่ถ้วน และทำให้ชีวิตของพลเรือนหลายล้านคนในเมียนมาตกอยู่ในอันตราย เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศได้เข้าร่วมต่อต้านเผด็จการทหาร

และ เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ รวมทั้งองค์การสหประชาชาติ และอื่นๆ ช่วยเหลือผ่านการปฏิบัติการทางทหารและเศรษฐกิจ เพื่อเห็นแก่พลเรือนที่ติดอยู่ในอันตราย

ดังที่ชายพื้นเมืองคนหนึ่งจากอุทยานสันติภาพสาละวินได้กล่าวไว้ว่า

หวังว่าประเทศที่มีอำนาจและสหประชาชาติจะสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์และกองกำลังป้องกันประชาขน หรือ PDF ในการต่อสู้กับกองทัพเมียนมา

เป็นเวลาหลายสิบปีที่เราดูแลดินแดนของเราโดยใช้วิธีอนุรักษ์และธรรมาภิบาลของชนพื้นเมืองของเรา ผู้นำของเราพยายามที่จะสร้างสันติภาพด้วยการเจรจาทางการเมืองและการกระทำอย่างสันติ แต่ทหารเมียนมา ยังคงใช้ความรุนแรงเพื่อรักษาอำนาจของตนเพื่อใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของประเทศเรา ตอนนี้คนทั้งประเทศยืนขึ้นเพื่อต่อสู้กับพวกเขา เราต้องการการสนับสนุนจากประเทศที่มีอำนาจในสิ่งต่างๆ เช่น อาวุธต่อต้านอากาศยาน

เราจึงสามารถป้องกันเครื่องบินไอพ่นของกองทัพพม่า เราเรียกร้องให้มีเขตห้ามบิน และห้ามขายอาวุธให้กองทัพพม่า แต่ไม่มีใครฟังเรา เราหวังว่านานาชาติจะช่วยเรา ในทำนองเดียวกันกับที่ได้เข้าร่วมการต่อสู้เพื่อกำจัดระบอบการปกครองที่ชั่วร้ายและผิดกฎหมายอื่น ๆ เช่น ISIS เพื่อให้เราได้ลิ้มรสความสงบสุขในที่สุด

ครับ พลเรือนชาวกะเหรี่ยง กำลังตกอยู่ในอันตราย เนื่องกจากการโจมตีทางอากาศของทหารอองหล่าย รวมทั้งจากปืนใหญ่ที่มาจากน้ำมือของกองกำลังพิทักษ์ชายแดนหรือ BGF ที่เป็นคนกะเหรี่ยงด้วยกัน แต่ฟังคำสั่งทหารอองหล่าย
ความทุกข์ร้อนของชาวกะเหรี่ยงเหล่านี้ จึงอยู่ที่นานาชาติจะตัดสินใจว่าจะให้อยู่ต่อไป หรือจบลงโดยเร็ววันครับ