ผู้ลี้ภัยค่ายแม่หละ จ.ตาก ก่อจลาจล เผา-ทำลายทรัพย์สิน

ไปที่จ.ตาก กันบ้าง ล่าสุดมีการก่อจลาจลที่ค่ายผู้ลี้ภัยบ้านแม่หละ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เหตุไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ทางการไทย เข้มสวมหน้ากากอนามัย และยึดรถมอเตอร์ไซด์ โดยได้ทุบทำลายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ พร้อมเผารถจักรยานยนต์ และบ้านพักของ อส.ประจำศูนย์ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ ได้ยิงปราม ทำให้มีผู้บาดเจ็บแต่ยังไม่ทราบจำนวน เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ

15 ธ.ค.64 สำนักข่าว KIC ของกะเหรี่ยง ได้เผยแพร่ภาพบางส่วน หลังเหตุการณ์ประท้วงและก่อจลาจลในค่ายผู้ลี้ภัยบ้านแม่หละ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ที่ชายแดนไทย-เมียนมา เมื่อคืน 14 ธันวาคม 2564

สำหรับรายละเอียดของข่าว มีรายงานจากสำนักข่าวชายขอบ ว่า เมื่อ 14 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 17.00-19.30 น. ได้เกิดเหตุชุมนุมประท้วงและกลายเป็นการจลาจลขึ้นที่ค่ายผู้ลี้ภัยบ้านแม่หละ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก

โดยผู้ที่อาศัยอยู่ในค่ายนับพันได้ประท้วงเนื่องจากไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ทางการไทยนำตัวผู้ที่อาศัยอยู่ในค่าย 2 คนที่ขี่รถมอเตอร์ไซด์โดยไม่สวมหน้ากากอนามัยลงจากรถ พร้อมยึดมอเตอร์ไซค์ไป ทำให้ชาวบ้านในค่ายไม่พอใจและพากันไปชุมนุมประท้วงที่หน้าสำนักงาน

โดยผู้ประท้วงได้ทำการทำลายประตู ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานไทยที่รักษาความปลอดภัยได้ยิงเพื่อปรามเหตุประท้วง ทำให้มีผู้บาดเจ็บแต่ยังไม่ทราบจำนวน

ผู้ที่ชุมนุมประท้วงรายหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า ความไม่พอใจของผู้อพยพในค่ายที่มีต่อเจ้าหน้าที่รัฐได้สะสมมาเป็นเวลาต่อเนื่อง โดยเฉพาะภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากมีมาตรการเข้มงวดในการเข้าออกค่าย แต่ใครที่มีเงินสามารถผ่านเข้าออกได้ ทำให้เกิดความไม่พอใจเพิ่มขึ้นตามลำดับ

ขณะเดียวกันความช่วยเหลือจากองค์กรระหว่างประเทศที่เคยดูแลอยู่ก็เป็นไปอย่างยากลำบาก

นอกจากนี้ยังมีเรื่องผลประโยชน์ของการนำข้าวของเข้าไปขายในค่ายแห่งนี้
และมีรายงานเพิ่มเติมจากเวบไซต์เมเนเจอร์ออนไลน์ว่า กลุ่มมวลชนที่ไร้แกนนำชัดเจนและมีจำนวนมาก ได้ตรงเข้าทำลายสิ่งของทุกอย่างของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่รับผิดชอบดูแลรักษาความปลอดภัยอยู่ภายในศูนย์อพยพ บ้านแม่หละ

มีการใช้ท่อนไม้ทุบรถยนต์ของทางราชการและรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่หลายสิบคันพังเสียหายยับเยิน

นอกจากนี้ยังมีการนำรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองประจำศูนย์รักษาความปลอดภัย มาจุดไฟเผากลางถนนสายแม่สอด-ท่าสองยาง ช่วง กม.60 และยังลักลอบเข้าไปเผาบ้านพักของ อส.ประจำศูนย์บ้านแม่หละ เสียหายไปกว่า 10 หลัง

ล่าสุดช่วงสายของ 15 ธ.ค.64 เจ้าหน้าที่ทหารพราน ฉก.ทพ.ที่ 35 ตำรวจ สภ.ท่าสองยางและฝ่ายปกครองอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ได้ระดมกำลังเข้าไปควบคุมรอบพื้นที่ศูนย์อพยพบ้านแม่หละ เนื่องจากสถานการยังไม่น่าไว้วางใจ

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าเคลียร์พื้นที่-ตรวจสอบความเสียหายภายในพื้นที่ใจกลางศูนย์อพยพแห่งนี้ได้ เพราะยังคงมีมวลชนหลายคนกระจายตัวอยู่ภายในพื้นที่เกิดเหตุ เกรงจะไม่ปลอดภัย

มีรายงานเพิ่มเติมจากสำนักข่าวชายขอบ ว่า ค่ายผู้ลี้ภัยบ้านแม่หละ หรือที่ราชการเรียกว่า “พื้นที่พักพิงชั่วคราวบ้านแม่หละ” นั้นถือว่าเป็น “ค่ายผู้ลี้ภัย” ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อยู่บนพื้นที่ 1,150 ไร่ โดยค่ายแห่งนี้มีจำนวนผู้หนีภัยจากการสู้รบประมาณ 43,715 คน

โดยประชากรส่วนใหญ่เป็นกะเหรี่ยงร้อยละ 80 เป็นชาวมุสลิมร้อยละ 15 ที่เหลือเป็นกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ อย่างไรก็ดีในอดีตค่ายผู้ลี้ภัยบ้านแม่หละเคยเป็นที่พักพิงให้ผู้คนมากถึง 60,000 คน

ครับ ค่ายผู้ลี้ภัยบ้านแม่หละ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ที่ชายแดนไทย-เมียนมา เป็น 1 ใน 9 แห่งของ ค่ายพักพิงตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี ราชบุรี ซึ่งไทยดำเนินการตามนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนตามหลักสากล ช่วยเหลืออย่างเต็มที่มาโดยตลอด แต่ก็มาพร้อมกับปัญหาอย่างที่เห็น ทำให้ไทยกลืนไม่เข้าคายออกไม่ออกตลอดมา

ในขณะที่องค์กรระหว่างประเทศ และเหล่าประเทศตะวันตก ที่ชอบหยิยยกสิทธิมนุษยชน มาวิจารณ์ไทย ก็ไม่ได้เข้ามาช่วยอย่างเต็มที่อย่างที่พูด ภาระจึงตกอยู่กับไทยเป็นหลัก ครับ///////////////////

\////