ไปติดตามปัญหาแรงงานเถื่อนหลบหนีเข้าเมืองกันบ้าง ล่าสุด กกล.สุรสีห์ ชายเเดน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย โดยวันเดียวถึง 218 คน หวังเดินทางไปทำงานที่กทม.และจังหวัดใกล้เคียง พร้อมระบุ จากการซักถามพบ จ่ายค่าหัวให้นายหน้า รายละ 25,000 -26,000 บาท เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ
เช้าวันอังคารที่ 9 พ.ย.64 ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก รายงานว่า กกล.สุรสีห์ ชายเเดน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดย ฉก.ลาดหญ้า ได้รับการเเจ้งข้อมูลจาก ผู้นำชุมชนในพื้นที่ อ.สังขละบุรี ว่าจะมีขบวนการนำพาผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จึงได้ทำการสนธิกำลัง ลาดตระเวน-ซุ่มตรวจ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ต่อมา ได้จับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย จำนวน 218 คน (ช125.ญ,93) บริเวณ บ.ห้วยกบ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
จากการซักถามได้ข้อมูลว่าเสียค่าใช้จ่ายรายละ 25,000 -26,000 บาท เดินทางมาจาก จ.พะโค, จ.เมาะละเเหม่ง, จ.ย่างกุ้ง, เเละ จ.กอกาเร็ก ประเทศเมียนมา โดยจะเข้าไปทำงานที่ กทม., จ.สมุทรสาคร, จ.สมุทรปราการ, จ.ชลบุรี, จ.ราชบุรี, จ.ปราจีนบุรี เเละ จ.ประจวบคีรีขันธ์
กกล.สุรสีห์ ชายเเดน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย โดยวันเดียวถึง 218 คน/Cr.ภาพ ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก Army PR Center
ทางหน่วยได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิขั้นต้น ไม่พบผู้มีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศาเซลเซียส เเละนำตัวส่ง สภ.สังขละบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ครับ จากภาพที่เห็นแสดงให้เห็นว่า การรับมือกับแรงานเถื่อน ผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เกินกว่าที่จะรับมือได้ไหว และเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโควิด-19 มากขึ้น ดังนั้น ทางรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งกระบวนการนำเข้าแรงงานต่างด้าวตามขั้นตอนกฎหมาย ให้ถูกต้อ
ง จะไม่ได้ต้องลักลอบช้ามแดน โดยไม่ได้ตรวจสอบ ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายมาก
แม้ว่าประเทศเหล่านั้น จะมีความเสี่ยงอยู่ แต่อย่างน้อย การเข้าประเทศไทย แบบถูกกฎหมายก็สามารถกลั่นกรอง ป้องกันปัญหาได้ระดับหนึ่ง
และผู้ประกอบการจะได้แรงงานเข้ามาเดินหน้าฟื้นฟู ธุรกิจของตนเอง หลังการเปิดประเทศแล้ว
