เอาไม่อยู่!แรงงาน”เมียนมา-กัมพูชา”ทะลัก/วันเดียวเฉียด 200 คน

462

 

มาติดตามความคืบหน้าการจับแรงงานเถื่อนหนีเข้าเมืองกันต่อ ล่าสุด ทหารพราน อ.แม่ระมาด จ.ตาก สกัดจับแรงงานเมียนมา 12 คน ในขณะที่กองกำลังสุรนารี จับกุมแรงงานชาวกัมพูชา 18 ราย ในจ.สุรินทร์ โดยวันก่อนหน้า กกล.สุรสีห์ ได้มีการกุมแรงานเถื่อนชาวเมียนมาวันเดียวเฉียด 200 คน เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ

31 ต.ค.64 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 โดย กองร้อยทหารพราน 3505 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีกลุ่มแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายใช้เส้นทางอ้อมผ่านด่าน บ.ขุนห้วยนกแล ม.1 ต.พระธาตุ อ.แม่ระมาด จ.ตาก ทางหน่วยจึงได้จัดกำลังลาดตระเวนเฝ้าตรวจบริเวณเส้นทางดังกล่าว

ในระหว่างที่ทำการลาดตระเวนนั้นได้ตรวจพบแรงงานต่างด้าว จำนวน 12 คน กำลังนั่งหลบซ่อนตัวอยู่ในป่า หน่วยจึงได้ทำการจับกุมแรงงานต่างด้าวทั้งหมด และประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แม่ระมาด และ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอแม่ระมาด ทำการคัดกรอง COVID – 19 และนำตัวแรงงานต่างด้าวทั้งหมด ส่ง สภ.แม่ระมาด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย

 

การจับแรงงานเถื่อนหนีเข้าเมืองจากเมียนมา/Cr.ภาพ ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก Army PR Center

 

ในวันเดียวกันนี้ มีรายงานว่า กองกำลังสุรนารี โดย กรมทหารพรานที่ 26 ได้จัดกำลังพลลาดตระเวนเดินเท้าในพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันการกระทำผิด และการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง โดยในห้วง 15 – 29 ต.ค.64 สามารถจับกุมแรงงานชาวกัมพูชา ได้จำนวน 18 ราย ในพื้นที่แนวชายแดน จ.สุรินทร์

นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวว่า 30 ต.ค.64 กกล.สุรสีห์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา เมื่อ เวลา 02.20 น.30 ต.ค.64 ที่ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายจำนวน 49 คน (ช.34,ญ,15) พร้อมผู้นำพาจำนวน 1 คน บริเวณ บ.ประตูด่าน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

เเละทำการขยายผล สามารถจับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมาเพิ่มเติมจำนวน 38 คน (ช.21,ญ,18) บริเวณ บ.ห้วยน้ำขาว ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

ต่อมาเวลา 04.30 น. ฉก.ลาดหญ้า ได้จับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายจำนวน 54 คน (ช.33,ญ.22) บริเวณ บ.เหม่องสะเทอ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

ต่อมาเวลา 13.30 น. ฉก.จงอางศึก ร่วมกับ ร้อย.ตชด.146, สภ.คลองวาฬ เเละฝ่ายปกครอง อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย จำนวน 43 คน (ช.18,ญ,25) พร้อมผู้นำพาจำนวน 3 คน พร้อมอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน 3 กระบอก บริเวณ บ.ไร่เครา ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์

จากการซักถามได้ข้อมูลว่าเสียค่าใช้จ่ายรายละ 18,000 – 23,000 บาท เดินทางมาจาก จ.ทวาย, จ.พะโค, จ.เมาะละเเหม่ง, จ.เมาะลำไย, จ.เนปิดอว์ เเละ จ.ย่างกุ้ง โดยจะเข้าไปทำงานที่ กทม., จ.สมุทรสาคร, จ.นครปฐม, จ.นนทบุรี, จ.สมุทรปราการ เเละ จ.ชลบุรี หน่วยได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิขั้นต้น ไม่พบผู้มีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศาเซลเซียส เเละนำตัวส่ง สภ.เมืองกาญจนบุรี, สภ.สังขละบุรี เเละ สภ.คลองวาฬ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ครับ ดูเหมือนว่าการสกัดแรงานต่างด้าวจะไม่สามารถหยุดขบวนการค้าแรงานเถื่อนได้ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเห็นใจเจ้าหน้าที่ในพื้นที่

และนี่ ยังสะท้อนถึงความล้มเหลวของหน่วยงานอื่นที่อยู่ในส่วนกลาง โดยเฉพาะมหาดไทย และตำรวจ หรือไม่

เพราะแรงงานเหล่านี้เข้ามา เพราะออเดอร์จากนายจ้างในส่วนกลาง หากไม่มีออเดอร์ ก็คงไม่มาเสี่ยง ดังนั้น หากขาดความเข้มงวดจากปลายทางแล้ว ก็คงจะมีการจับกันรายวันอย่างนี้ต่อไป

พร้อมจะไปความล้มเหลวในการแก้ปัญหาโควิด-19 ให้มากขึ้นไปอีก

ซึ่งหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหมดปัญญาแก้ปัญหานี้แล้ว ก็ให้ยอมรับมัน แล้วกลับมาเปิดนำเข้าให้ถูกไปเลย ครับ