วิกฤติน้ำมันเมียนมา! หนุ่มหันมาขี่ม้าแทน-คนแห่เติมแน่นปั๊ม

301

 

 

ไปดูเรื่องวิกฤติราคาน้ำมัน ในเมียนมากันบ้าง มีรายงานว่าในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ว่า ชาวเมียนมาได้ต่อคิวเติมน้ำมันที่สถานีบริการจนเกิดความโกลาหล ในหลายเมือง เนื่องจากมีข่าวลือว่าน้ำมันจะขาดแคลน ในขณะที่หนุ่มส่งนมคนหนึ่ง ในรัฐฉาน ไม่ง้อน้ำมันหันไปขี่ม้าส่งนมแทน ด้านสื่อชี้ เหตุราคาน้ำมันเมียนมาพุ่งพรวด เพราะราคาน้ำมันดิบสูงขึ้น และเงินจ๊าตอ่อนค่าลง เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ

กรณีชาวเมียนมาหลายพื้นที่ ได้พากันนำรถไปเติมน้ำมัน จนแน่นสถานีบริการ เนื่องจากราคาน้ำมันในเมียนมาได้พุ่งพรวด และสถานีบริการหลายแห่งจำเป็นต้องปิดชั่วคราว จากความผันผวนดังกล่าว

โดยล่าสุด 1 ต.ค.64 สำนักข่าว คะมี มีเดีย กรุ๊ป (Khamee Media Group) ได้เผยภาพผลจากวิกฤติน้ำมันราคาพุ่งในเมียนมา ทำให้หนุ่มส่งนม ในเมืองนองโช (Nawngcho ) ในเขตจ็อกเม ( Kyaukme) ทางตอนเหนือของรัฐฉาน ต้องใช้หันมาขี่ม้าแทนใช้รถ

โดยก่อนหน้านี้เมื่อ 30 ก.ย.สื่อเมียนมาหลายสำนักได้เผยภาพ ได้เผยภาพชาวเมียนมาได้ต่อคิวเติมน้ำมันที่สถานีบริการจนเกิดความโกลาหล เช่น สำนักข่าว Lashio Media เผยประชาชนต่อคิวเพื่อเติมน้ำมันที่สถานนีบริการในเมืองตองอู ในเขตพะโค ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเมียนมา เนื่องจากมีข่าวลือว่าน้ำมันขาดแคลน เมื่อ 29 กันยายน 2564 ดังนั้นชาวบ้านจึงเข้าแถวรอเติมน้ำมันอย่างแน่นขนัด

สำหรับสาเหตุที่ราคาน้ำมันในเมียนมาราคาพุ่งนี้ สำนักข่าวดิอิรวดี รายงานเมื่อ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา ว่า ราคาน้ำมันในเมียนมาร์เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวนับตั้งแต่รัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์

 

ชาวเมียนมาแห่เติมน้ำมันหวั่นขาดแคลน/photo credit:CJ,Voice of Myanmar

 

เนื่องจากราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นในตลาดต่างประเทศ และเงินจ๊าตอ่อนค่าลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมืองหลังรัฐประหาร

ผู้จัดการ บริษัทนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงในย่างกุ้ง บอกกับสำนักข่าวดิอิรวดีว่า ก่อนการรัฐประหาร ราคาน้ำมันดีเซลหนึ่งลิตรอยู่ที่ประมาณ 700 จ๊าด ตอนนี้พุ่งขึ้นเป็น 1,500 จ๊าตแล้ว ราคาน้ำมันดิบทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในตลาดต่างประเทศในปีนี้ ไม่เพียงแต่ประเทศของเมียนมา เท่านั้น แต่ประเทศอื่นๆ ก็กำลังประสบปัญหาการขึ้นราคาด้วยเช่นกัน แต่ในเมียนมาร์นั้นควบคู่ไปกับค่าจ๊าดที่อ่อนค่าลง

รายงานข่าว ระบุด้วยว่า เมื่อวันอังคารที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี โดยพุ่งขึ้นเหนือ 80 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในตลาดโลก ท่ามกลางอุปทานที่ตึงตัวและอุปสงค์ที่พุ่งสูงขึ้น

และ ในสัปดาห์นี้ อัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเมียนมาร์ประมาณ 2,500 ถึง 2,700 จ๊าตต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยก่อนรัฐประหาร อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ระหว่าง 1,300 ถึง 1,400 จ๊าตต่อดอลลาร์สหรัฐ

ครับวิกฤติเศรษฐกิจของเมียนเริ่มส่งผลแล้ว และวิกฤตินี้นอกจากจะกระทบต่อชาวบ้านเมียนมาแล้ว ยังส่งผลโดยตรงต่อการค้า การลงทุนของนักลงทุนประเทศต่างๆ ในเมียนมา รวมทั้งนักลงทุนจากไทยด้วย

และคาดว่าจากวิกฤติเหล่านี้ จะทำให้มีแรงงานชาวเมียนจำนวนมากทะลักเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งทางการไทยต้องรับมือกันดีๆ ครับ