มาติดตามสถานการณ์ด้านชายแดนไทย -พม่ากันต่อ ล่าสุด มีแถลงการณ์จากองค์การณ์กะเหรี่ยงออสเตรเลีย หรือ AKO ที่ได้ออกมาบี้ พลเอกมูตู เซโพ ประธานสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ให้ออกจากตำแหน่ง เหตุออกแถลงการณ์ที่จะปฏิบัติตามกรอบข้อตกลงหยุดยิงหรือ NCA และหาทางแก้ไขวิกฤตทางการเมืองผ่านการเจรจา โดยระบุว่า หากไม่ลาออกผู้นำ KNU ต้องเรียกร้องให้ ลาออก พร้อมกันนี้ยังเรียกร้องให้ KNU สนับสนุนรัฐบาลเงาด้วย เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันดูครับ
15 พ.ค.64 องค์การกะเหรี่ยงออสเตรเลีย (AKO) ได้ออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับถ้อยแถลงของ พลเอกมูตู เซโพ (Saw Mutu Say Poe) ประธานสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ระบุว่าเขาตั้งใจที่จะปฏิบัติตามกรอบข้อตกลงหยุดยิงหรือ NCA และหาทางแก้ไขวิกฤตทางการเมืองผ่านการเจรจา
โดยแถลงการณ์ของ องค์การกะเหรี่ยงออสเตรเลีย มีเนื้อหาสรุปความว่า แถลงการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับแถลงการณ์ที่ออกโดย KNU ในช่วงที่มีการรัฐประหารของสภาทหาร ที่ พลเอกมูตู เซโพ ลงนามในจดหมาย สำหรับข้อเสนอจากหัวหน้าคณะรัฐประหาร “มิน อองหล่าย (Min Aung Hlaing) ซึ่ง AKO เห็นว่าไร้ประโยชน์สำหรับเป้าหมายทางการเมืองและการปฏิวัติของชาวกะเหรี่ยง
พลเอกมูตู เซโพ ประธานสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU)/Cr.Photo:www.tachileik.net
แถลงการณ์AKO ยังระบุว่า นโยบายของประธาน ” มูตู เซโพ ” ไม่เป็นความจริง ในเรื่องที่การลงนามในข้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศ (NCA) ซึ่งตามแผนงานของ KNU จะให้บรรลุข้อตกลงทางการเมืองผ่านการเจรจาทางการเมือง ตั้งแต่การหยุดยิงชั่วคราวไปจนถึงการหยุดยิงถาวร สุดท้ายคือการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนรวมถึงความร่วมมือทางการเมือง
โดยเรื่องนี้ AKO เห็นว่า นับตั้งแต่มีการลงนามในข้อตกลงหยุดยิง หรือ NCA ครั้งแรก กับกองทัพพม่า กองทัพพม่า ได้ยึดที่ดินของชาวกะเหรี่ยงภายใต้ข้ออ้างของการพัฒนา นอกจากนี้การก่อสร้างในพื้นที่มีการขยายตัวใหม่ มีการเสริมกำลังทางทหาร และการปะทะหลายครั้งกับกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) เนื่องจากการสร้างถนนและโครงการขนาดใหญ่อื่น ๆ เพื่อจุดประสงค์ในการครอบงำทางยุทธศาสตร์ ยิ่งไปกว่านั้นมีกองทัพพม่าจำนวนมากในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยง
นอกจากนี้ ปืนใหญ่ถูกยิงใส่หมู่บ้านกะเหรี่ยงในท้องถิ่น ชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่หลายพันคนต้องหนีเข้าป่าเพื่อเอาชีวิตรอด เนื่องจากการทิ้งระเบิดซ้ำ ๆ โดยเครื่องบินรบจนต้องข้ามพรมแดนเข้ามาในประเทศไทย
ในทำนองเดียวกันการปราบปรามอย่างรุนแรง ต่อการประท้วงอย่างสันติเพื่อต่อต้านการรัฐประหารของกองทัพทั่วประเทศพม่าได้เกิดขึ้น มีผู้เสียชีวิตเกือบ 800 ราย รวมทั้งเด็กและผู้ประท้วงและคนงานหลายพันคนที่เกี่ยวข้องกับขบวนการอารยะขัดขืน CDM ถูกควบคุมตัวอย่างไม่เป็นธรรม และได้ยินว่าพวกเขากำลังถูกทรมาน มันไม่ปลอดภัยสำหรับคนพม่าที่จะอยู่รอดในชีวิตประจำวัน
ในขณะที่ความพยายามในการรื้อฟื้นข้อตกลงหยุดยิงหรือ NCA ซึ่งเกิดขึ้นภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2008 ซึ่งถูกยกเลิกไปตั้งแต่การรัฐประหาร โดยกองทัพพม่าไม่สนใจวิกฤตทางการเมืองในปัจจุบัน
ด้วยการรวมปัจจัยข้างต้นนี้ ประธาน ” มูตู เซโพ” ได้ใช้ชื่อเสียงส่วนบุคคลไปเสริมสร้างเผด็จการ โดยใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ ไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีของ KNU ดังนั้นในฐานะประธาน KNU รวมถึงแถลงการณ์ที่ออกโดย KNU นับตั้งแต่การรัฐประหารของสภาทหาร ท่านต้องรับผิดชอบต่อคำสั่งของท่าน แต่เพียงผู้เดียว
AKO จึงขอเรียกร้องให้ประธาน “มูตู เซโพ” รับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง และลาออก หากไม่ลาออกผู้นำ KNU ต้องเรียกร้องให้ “มูตู เซโพ” ลาออก
พร้อมกันนี้ ได้เรียกร้องให้ชาวกะเหรี่ยงและกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) สนับสนุนรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) หรือ รัฐบาลเงา ของพม่า
ครับ น่าจับตา สำหรับ ปฏิกริยาของชาวกะเหรี่ยงต่อแถลงการของประธาน KNU พลเอกมูตู เซโพ ที่ออกมาสวนทางกับรู้สึกของชาวกะเหรี่ยงในห้วงเวลาที่ผู้นำกองทัพ ได้เรียกร้องให้ชาวกะเหรี่ยงกลุ่มต่างๆ ร่วมผนึกกำลังสู่กับเผด็จทหารพม่า
สิ่งที่น่ากังวลคือ จะกระทบต่อความสัมพันธ์ภายในของกองทัพกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงหรือไม่ หากปฏิกริยาเหล่านำไปสู่ความแยกภายใน แล้ว อนาคตของชาวกะเหรี่ยง ก็จะตกอยู่ในห้วงอันตราย ทันที ครับ
