รัฐบาลเงาลั่นเปรี้ยง! ไม่เจรจา”อองหล่าย”ตั้งกองกำลังพร้อมลุย

896

 

 

มาติดตามสถานการณ์ในพม่ากันต่อ ล่าสุด รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติของพลเรือนเมียนมาร์(NUG) ลั่นไม่เจรจากับรัฐบาลทหารที่ต่อต้านเจตจำนงของประชาชน แม้อาเซียนเรียกร้อง ชี้ คนเมียนมา ผิดหวังโดนกีดกันไม่ให้ร่วมประชุม ย้ำผู้กระทำความรุนแรง มีเพียงผู้เดียวคือ ระบอบการปกครองของทหาร พร้อมแจง รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) จัดตั้งกองกำลังป้องกันประชาชน เพื่อหยุดความรุนแรงและยุติสงครามกลางเมืองกว่า 70 ปี เรื่องนี้น่าสนไปติดตามกันครับ

9 พ.ค.64 สำนักข่าวอิระวดี รายงานว่า รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติของพลเรือนเมียนมาร์(NUG) กล่าวว่า จะไม่เจรจากับรัฐบาลทหารที่ต่อต้านเจตจำนงของประชาชนแม้จะมีการเรียกร้องจากสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ให้เจรจา

รายงานยังระบุว่า นับเป็นการปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือโดยรัฐบาลเงาครั้งที่สองหลังจากที่ปฏิเสธแถลงการณ์ร่วมของรัฐบาลทหาร – อาเซียน ที่กล่าวว่า “ทุกฝ่ายจะต้องใช้ความยับยั้งชั่งใจอย่างเต็มที่ โดยรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติของพลเรือนเมียนมาร์ NUG กล่าวว่า ผู้กระทำความรุนแรงเพียงผู้เดียวคือระบอบการปกครองของทหาร

และว่า การประชุมสุดยอดอาเซียน ซึ่งเข้าร่วมโดย พลเอกอาวุโสมินอองหล่าย ผู้นำรัฐประหาร เมื่อวันที่ 24 เมษายน เรียกร้องให้มีฉันทามติ 5 ประเด็น รวมถึงการเจรจาระหว่างทุกฝ่ายเพื่อหาทางออกอย่างสันติ นั้น หลายคนในเมียนมาผิดหวังที่อาเซียนกีดกัน รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติของพลเรือนเมียนมาร์ (NUG )จากการประชุมสุดยอดที่อินโดนีเซียและเชื่อว่าอาเซียนไม่เข้าใจสถานการณ์ดังกล่าว

รายงานข่าว ระบุด้วยว่า ความล้มเหลวของผู้นำอาเซียนในการเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ถูกควบคุมตัวทำให้หลายคนในเมียนมาผิดหวัง

 

 

รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติของพลเรือนเมียนมาร์(NUG)/Cr.Photo: National Unity Government of Myanmar

 

ชาวเมียนมาร์กล่าวว่าพวกเขามีรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยแล้วในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2563 (2020)

ในขณะที่ พลเอกอาวุโสมินอองหล่าย (min Aung Hlaing ) กล่าวว่า เขาจะพิจารณาขั้นตอนที่ได้รับการแนะนำในการแก้ไขวิกฤต หลังจากสถานการณ์คงที่แล้ว

รายงานระบุอีกว่า อาเซียน กำลังวางแผนที่จะส่งทูตไปพม่าในสัปดาห์หน้าเพื่อจัดการเจรจาเพิ่มเติมกับ มินอองหล่าย และผู้นำรัฐบาลทหารคนอื่น ๆ แต่มีเพียงไม่กี่คนในเมียนมาร์ ที่มีความหวังว่าอาเซียนจะแก้ไขวิกฤตได้

 

นาย ดู่หว่า ละชี ละ ( Duwa Lashi La) รองประธานาธิบดีของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติของพลเรือนเมียนมาร์ (NUG )/Cr.Photo: National Unity Government of Myanmar

 

โดย เมื่อวันเสาร์ที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา นาย ดู่หว่า ละชี ละ (Duwa Lashi La) รองประธานาธิบดีของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติของพลเรือนเมียนมาร์ (NUG ) กล่าวว่า เมียนมาร์ชื่นชมความพยายามของอาเซียนในการยุติวิกฤต แต่กลุ่มควรรับฟังประชาชนของเมียนมาร์

เส้นทางสำหรับการเจรจาที่ตกลงกันในการประชุมสุดยอดอาเซียน ไม่ใช่สิ่งที่คนเมียนมาร์ต้องการ

เขากล่าวอีกว่า รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติของพลเรือนเมียนมาร์ ( NUG) จะพิจารณาการเจรจาต่อเมื่อประชาชนต้องการการเจรจาเท่านั้น พลเรือนติดอาวุธด้วยปืนลม อาวุธปืนและหนังสติ๊กแบบทำเอง ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา เมื่อรัฐบาลทหารทวีความรุนแรงมากขึ้นในการปราบปรามการประท้วงอย่างสันติทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 100 คนในวันเดียว

โดย ภูมิภาค สกาย (sagaing) มะกเว (Magwe) และ รัฐชิน (Chin State) กำลังเห็นจำนวนการโจมตีที่เพิ่มขึ้นต่อกองกำลังทหารรัฐบาล โดยกองกำลังต่อต้านของพลเรือน นอกจากนี้ กองกำลังป้องกันประชาชนได้ถูกจัดตั้งขึ้นในที่ต่างๆ

รองประธานาธิบดีของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติของพลเรือนเมียนมาร์ (NUG ) กล่าวอีกว่า NUG เองได้จัดตั้งกองกำลังป้องกันประชาชน เมื่อวันพุธที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อหยุดความรุนแรงของรัฐบาลพม่าและยุติสงครามกลางเมืองกว่า 70 ปี ในขณะที่รัฐบาลทหารพม่า ยังคงปราบปรามผู้ประท้วง การควบคุมตัว และการโจมตีจำนวนมากยังคงดำเนินต่อไป

พร้อมระบุด้วยว่า ตามรายงานของสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 770 คน โดยรัฐบาลทหาร ผู้คนมากกว่า 3,800 คน รวมถึงผู้นำที่มาจากการเลือกตั้ง สมาชิกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย กรรมการการเลือกตั้ง แพทย์ นักข่าว นักเขียน ผู้ประท้วง และศิลปินถูกควบคุมตัว

 

NUG เองได้จัดตั้งกองกำลังป้องกันประชาชน เมื่อวันพุธที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา/Cr.Photo: National Unity Government of Myanmar

 

ครับ การแสดงท่าทีของ รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติของพลเรือนเมียนมาร์ ต่อการไม่ยอมรับการหารือล่าสุดของผู้นำอาเซียน ในการแก้ปัญหาวิกฤติในพม่า เพราะเห็นว่า อาเซียนไม่เข้าใจสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งจะไม่เจรจากับรัฐบาลทหารที่ต่อต้านเจตจำนงของประชาชน แสดงให้เห็นถึงเชื้อไฟลูกใหม่ที่พร้อมปะทุ และขยายความรุนมากขึ้นไปอีกระดับ และยังไม่เห็นวี่แววว่าปัญหานี้จะจบลงอย่างไร และใครจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้

แต่สิ่งที่จับตาน่ากังวลต่อจากนี้ คือ การประกาศของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) จัดตั้งกองกำลังป้องกันประชาชน เมื่อวันพุธที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา ในขณะที่ รัฐบาลทหารพม่า ได้ประกาศให้ รัฐบาลเงาเป็นก่อการร้าย ทำให้มีแนวโน้มว่า ทั้ง 2 ฝ่าย จะจับอาวุธ ขึ้นห้ำหั่นกันให้ตายไปข้าง

ซึ่งแน่นอนว่าสถานการณ์อย่างนี้จะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากจะเป็น “สงครามกลางเมือง”แบบในซีเรีย ที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2554 มาจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่จบสิ้น และที่จะทำให้ปัญหาเมียนจบยาก

ซึ่งสาเหตุที่แก้ปัญหาได้ยาก คือ การที่เมียนม่า ตกในท่ามกลางการแย่งชิงผลประโยชน์ของชาติมหาอำนาจ นั่นเอง ครับ