รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด KNLA ของ KNU ได้ส่งจดหมายไปยัง กองกำลังกะเหรี่ยง 4 กลุ่ม โดยเรียกร้องให้กลุ่มติดอาวุธกะเหรี่ยงร่วมมือกันโค่นอำนาจเผด็จการทหาร พร้อมแฉแผน พม่าดึงกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF ) ซึ่งเป็นชาวกะเหรี่ยง ให้มาช่วยเหลือกองทัพพม่า ชี้ไม่ได้มีผลดีต่อชาวกะเหรี่ยงเลย เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ
จากสถานการณ์การสู้รบยังคงดุเดือด ในรัฐกะเหรี่ยงระหว่างกองทัพพม่าและทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยู ในรัฐะเหรี่ยง บริเวณชายแดนไทย-พม่า โดยเฉพาะทหารพม่า ได้ส่งเครื่องบินรบโจมตีรอบๆ ฐานดา-กวิน ของทหารพม่าดา-กวิน ที่อยู่ตรงกันข้ามกับบ้านท่าตาฝั่ง จ.แม่ฮ่องสอน อย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุดเมื่อ 2 พ.ค. 2564 สื่อ KIC ของกะเหรี่ยง รายงานว่า พลเอก บอจ่อ แฮ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNLA ของ KNU ได้เรียกร้องให้กลุ่มติดอาวุธกะเหรี่ยง 4 กลุ่ม คือ 1.KNLA หรือ กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง 2.DKBA หรือ กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย 3.KNU/KNLA-PC หรือ กองกำลังสภาสันติภาพกองทัพปลดปล่อยชนชาติกะเหรี่ยง และ 4.BGF หรือ กองกำลังพิทักษ์ชายแดน ร่วมต่อสู้กับเผด็จการทหารพม่า
โดยได้ส่งจดหมายเป็นภาษากะเหรี่ยงไปยังกลุ่มเหล่านี้ มีรายละเอียดระบุว่า ผู้นำกองกำลังและเหล่าทหารของ KNLA, DKBA, KNU/KNLA-PC และ BGF ทั้งหลายทั้งหมด
พลเอก บอจ่อ แฮ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNLA ของ KNU/Cr.Photo: Karen Information Center -KIC
กว่า 70 ปีที่การปฏิวัติกะเหรี่ยง ไม่เคยมีโอกาสเช่นนี้ ในการใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้เรายืนหยัดเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ของคนรุ่นเราที่ต่อสู้เพื่อเอกราช เพื่อให้ระบอบเผด็จการทหารพม่าถูกโค่นล้ม เพื่อคนรุ่นต่อไปจะได้เป็นอิสระจากเผด็จการ
พลเอก บอจ่อ แฮ ระบุด้วยว่า ปัจจุบันการรวมตัวของชาวกะเหรี่ยงมีความสำคัญ ขณะนี้ศัตรูกำลังทำการโจมตีทางอากาศทางด้านเหนือของกูทูเล (Kawthoole) แต่ก็ไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ
พลเอก บอจ่อ แฮ เสริมอีกว่า รัฐบาลพยายามข่มขู่ประชาชน การโจมตีทางอากาศได้ตอกย้ำถึงความอ่อนแอของกองกำลังภาคพื้นดิน และการขยายกองกำลังของพวกเขาเพื่อช่วยกองกำลังของพวกเขาที่ถูกปิดล้อม ตอนนี้พวกเขาจึงต้องการใช้กองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF ) ให้มาช่วยเหลือกองทัพพม่า ซึ่งแผนของศัตรูนี้ ไม่ได้มีผลดีต่อชาวกะเหรี่ยงใดๆ เลย เพราะ ชาวกะเหรี่ยงเป็นกลุ่มเดียวที่เสียชีวิตและบาดเจ็บจากการต่อสู้ ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเราต้องยืนหยัดและดำเนินงานของชาติให้ถูกต้อง แยกแยะระหว่างความดีและความเลว
พร้อมเรียกร้องให้เดินไปสู่เส้นทางสู่เอกภาพ และต่อสู้อย่างกล้าหาญกับเผด็จการทหารพม่า
กว่า 70 ปี การต่อสู้ของกองกำลังกะเหรี่ยงกับกองทัพพม่า ในการรบนั่นกองกำลังกะเหรี่ยงไม่ได้ด้อยกว่าทหารพม่าเลย แม้กำลังและอาวุธน้อยกว่า แต่มีอาวุธอย่างเดียว ที่พม่าใช้ได้ผลคือ การทำให้ชาวกะเหรี่ยงแตกความสามัคคี
ดังจะเห็นได้ในช่วงปี พ.ศ. 2536-2537 (1993-1994 ) ที่พม่าเดินแผนยุให้เกิดการแตกแยกภายใน เป็นกะเหรี่ยงคริสต์ กับ กะเหรี่ยงพุทธ
ทหารกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNLA ของ KNU/Cr.Photo: Karen Information Center -KIC
จนใน พ.ศ.2538 พม่าสามารถยึดค่ายของกองกำลังกะเหรี่ยง KNU ที่แข็งแกร่งที่สุด คือ ค่ายมาเนอปลอ กับ ค่ายกอมูร่า ลงได้
โดยเฉพาะค่ายกอมูร่า ที่เดียว การโจมตีค่ายแห่งนี้ตั้งแต่ปี 2527 (ค.ศ.1984) จนถึง ในปี 2538 (ค.ศ. 1995) ทหารพม่าเสียชีวิตกว่า 4 พันนาย
ซึ่งนี่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของทหารกะเหรี่ยงKNU
แต่มาถึงตอนนี้ ประวัติศาสตร์ส่อซ้ำรอยเดิม เมื่อทหารพม่ากำลังใช้ ใช้กองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF ) ซึ่งเป็นชาวกะเหรี่ยง ให้มาช่วยเหลือกองทัพพม่า เพื่อโจมตีกองกำลังกะเหรี่ยงอีกครั้ง
ซึ่งต้องดูว่า จดหมายของพลเอก บอจ่อ แฮ ที่ส่งไปยังกะเหรี่ยง 4 กลุ่ม โดยเฉพาะกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF ) จะสามารถเปลี่ยนประวัติศาสตร์ อันเจ็บปวดนี้ได้หรือไม่
