สงครามกลางเมือง!ทหารพม่าเจอม็อบสวนกลับดับ18ราย

811

 

มาติดตามสถานการณ์ในพม่ากันต่อ ตอนนี้ต้องบอกว่าเป็นเริ่มเข้าโหมดสงครามกลางเมืองในบางพื้นที่แล้ว โดยเฉพาะใน เขตสะกาย ติดชายแดนอินเดีย ที่ล่าสุดสื่อพม่า รายงานว่า มีพลเรือนถูกยิงหลายรายในเมืองทามู เขตสะกาย ในขณะที่ผู้ประท้วงและกองกำลังต่อต้าน ได้สังหารทหารพม่าด้วยระเบิด เสียชีวิตอย่างน้อย 18 ราย พร้อมกันนี้ ชาวบ้าน ได้ใช้ปืนยิงตอบโต้กับทหาร ในขณะที่โรงพยาบาลเอง ถูกบุกตรวจค้น ด้วย เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ

เมื่อ 11 เมษายน 2564 มีรายงานข่าวจาก สำนักข่าวอิรวดี ว่า สมาชิกของกองกำลังความมั่นคงของพม่าอย่างน้อย 18 ราย ถูกสังหารโดยผู้นุมประท้วงเมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ 10 เมษายน หลังจากพลเรือนถูกยิงในเมืองทามู เขตสะกาย ติดชายแดนอินเดีย

พร้อมกันนี้ รายงานข่าวระบุอีกว่า ชายคนหนึ่ง ซึ่งไม่ได้เข้าร่วมการประท้วง ถูกยิงเสียชีวิตขณะที่เขาและเพื่อนอีกสองคนกำลังขี่รถมอเตอร์ไซค์ ตามการบอกเล่าของชาวบ้านทามู

นอกจากนี้ ชาวบ้าน ยังเล่าว่า ชายอีกคนถูกยิงเสียชีวิตระหว่างการปราบปรามเมื่อบ่ายวันเสาร์ ซึ่งการยิงเกิดขึ้นตั้งแต่เที่ยงวันเสาร์จนถึงเช้าวันอาทิตย์

ในขณะที่ผู้ชุมประท้างในเมืองทามู กล่าวว่า ตำรวจและทหารใช้เครื่องยิงลูกระเบิด ปืนกลและวัตถุระเบิดกับพวกเขา พร้อมระบุว่า ยังได้ยินว่ามีทหาร 19 นาย ถูกสังหารเมื่อระเบิดถูกโยนเข้าไปในรถบรรทุกของทหาร

ผู้อยู่อาศัยในย่านนั้นอีกคนกล่าวว่า พวกเขาได้ยินว่าทหารถูกสังหารโดยกองกำลังป้องกันพลเรือนของเมือง

ต่อมา กำลังติดอาวุธขององค์การแห่งชาติ Kuki (Kuki National Organization :KNO) ออกแถลงการณ์เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 10 เมษายน โดยระบุว่า ทหาร 18 นาย ถูกสังหารโดยประชาชนผู้ประท้วงและกองกำลัง KNO

 

การชุมนุมของชาวทามู เขตสะกาย /Cr.ภาพ fb Khampat Times

 

ก่อนหน้านั้น ในวันที่ 4 เมษายน ทหารอย่างน้อย 4 นาย ถูกสังหารโดยชาวทามู ในขณะที่กองกำลังทหาร ยิงเข้าใส่เครื่องกีดขวางของผู้ประท้วง

รายงานข่าวยังระบุว่า ผู้ประท้วงต่อต้านระบอบการปกครองยังคงออกเดินทางตามท้องถนน แม้จะมีการปราบปรามที่รุนแรง และกองกำลังของรัฐบาลพม่าใช้วัตถุระเบิดเพื่อทำลายสิ่งกีดขวางบนถนนของผู้ประท้วง

นอกจากนี้ ผู้อยู่อาศัยบางส่วน กำลังหลบหนีจากเมืองทามู เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง โดยมีหลายครอบครัว ที่ข้ามพรมแดนไปยังอินเดีย แต่มีเพียงจำนวนหนึ่ง เพราะถูกจำกัดโดยการล้อมรั้วชายแดน และการรักษาความปลอดภัยของอินเดียที่เข้มงวดขึ้น

ด้านสำนักข่าว myanmar-now รายงานเหตุการณ์ในเมืองทามู เขตสะกาย เมื่อ 13 เมษายนว่า กองกำลังทหาร ปฏิบัติการจู่โจมในช่วงเช้าตรู่ ที่โรงพยาบาล Grace (
(เกรส) และได้ทุบตีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนอย่างรุนแรง และบังคับให้แพทย์และพยาบาลส่งมอบโทรศัพท์ของพวกเขา

นอกจากนี้มีมีรายงานว่า ทหารยิงเข้าไปในบ้านและชาวบ้านยิงตอบโต้ด้วยปืนผลิตเอง แต่การต่อต้านมีไม่มาก เนื่องจากมีทหารจำนวนมาก

ทั้งนี้ จากข้อมูลของสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง กองกำลังของรัฐบาลพม่าได้สังหารพลเรือนไปแล้วกว่า 700 คนนับตั้งแต่กองทัพเข้ายึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

พร้อมระบุว่า บุคลากรทางการแพทย์และโรงพยาบาลไม่ได้รับการยกเว้นจากการโจมตีที่รุนแรง เมื่อวันที่ 28 มีนาคม กองกำลังเปิดฉากยิงด้วยกระสุนยางที่โรงพยาบาลเอเชียรอยัล ในย่างกุ้ง ทำให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 1 คน รัฐบาลทหารยังกำหนดเป้าหมายไปยังหน่วยแพทย์ที่ให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ผู้ประท้วงที่ได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง

ประเมินแล้ว การต่อต้านและการปราบปราบในพม่ารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเขตสะกาย ติดชายแดนอินเดีย ดังที่กล่าว เป็นพื้นที่ที่มีการมีการชุมนุมประท้วงของพลเรือนออกมาต้านทหารพม่าอย่างรุนแรงที่สุด โดยเฉพาะการใช้อาวุธทำเองลุกขึ้นมาต่อสู้ และการผสมโรงของกองกำลังติดอาวุธที่ใช้ระเบิดตอบโต้สังหารทหาร

สถานการณ์การแบบนี้ สถานการณ์นี้ไม่ต่างจากสงครามกลางเมือง ซึ่งถ้าปล่อยไว้ สถานการณ์ คงยากต่อการแก้ไข และ เลี่ยงไม่ได้ที่ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงต้องได้รับผลกระทบไปด้วย โดยเฉพาะประเทศไทย ที่มีความใกล้ชิดกับประเทศพม่าที่สุด

ดังนั้นจึงวิงวอนผู้มีส่วนเกี่ยวงข้องในพม่า ต้องรีบยุติปัญหาอย่างเร่งด่วนด้วยตัวตัวเอง ให้ต่างชาติเข้าไปเกี่ยวข้องน้อยที่สุด เพราะถ้าปล่อยให้ชาติมหาอำนาจไปยุ่ง มันจะมาพร้อมวาระซ่อนเร้นเสมอ และเหตุการณ์ขะบานปลายหนักไปอีก