ประธาน KNU ปลุกกลุ่มชาติพันธุ์เปิดศึกใหญ่ ลุยทห.พม่า

325

 

ประธาน KNU ปลุกทุกกลุ่มชาติพันธุ์รวมพลัง เผชิญกับสถานการณ์ปัจจุบันร่วมกันและมีส่วนร่วมในการปฏิวัติครั้งใหญ่ ระบุ หนทางเดียวที่เหลืออยู่คือการต่อสู้ด้วยอาวุธเพื่อโค่นล้มระบอบการปกครองของทหาร เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ

11 มกราคม 2567 สำนักข่าว Khit Thit Media รายงานว่า ผาโด ซอว์ บิน ทู วิน ประธานสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) กล่าวว่าหนทางเดียวที่เหลืออยู่คือการต่อสู้ด้วยอาวุธเพื่อโค่นล้มระบอบการปกครองของทหาร
เขาเสริมสิ่งนี้ในการทักทายวันปีใหม่ของชาวกะเหรี่ยงเมื่อ 10 มกราคมที่ผ่านมา

 

และว่า กองทัพพม่าให้เหตุผลอันไม่มีมูลความจริงสำหรับการรัฐประหาร และพนักงานของรัฐพร้อมด้วยประชาชนทั้งหมด ประณามการรัฐประหารครั้งนี้ และคนหนุ่มสาวออกมาประท้วงต่อต้าน แต่เมื่อทหารปราบปรามฝ่ายต่อต้านอย่างโหดร้ายมากขึ้น พวกเขาก็หันไปใช้อาวุธเพื่อปกป้องตนเอง

พร้อมระบุว่า ในขณะที่กองทัพเพิ่มความเข้มข้นในการปราบปรามการต่อต้านการรัฐประหารของผู้ก่อการร้าย ฝ่ายค้านก็มีความรุนแรงมากขึ้น และการป้องกันตัวด้วยอาวุธเพื่อป้องกันตัวเอง

แลว่า วิธีเดียวที่จะต่อสู้กับรัฐประหารคือการใช้อาวุธและนี่ก็เป็นวิธีการอันทรงพลังของกองทัพรัฐประหารเช่นกัน

นอกจากนี้เขายังกล่าวด้วยว่าขณะนี้กองทัพพม่าครองอำนาจมาเป็นเวลาสามปีแล้ว กองทัพพม่ากำลังประสบปัญหา และความเสื่อมโทรมจากทุกด้าน

เขากล่าวว่าเมื่อฐานทัพใหญ่ถูกโจมตีและเกิดสงครามขึ้นทั่วประเทศ กองทัพพม่าสูญเสียทหารไปจำนวนมาก ขวัญกำลังใจเสื่อมถอย และยอมจำนนต่อกองกำลังปฏิวัติ

ผาโด ซอว์ บิน ทู วิน กล่าวย้ำว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่มีวิธีอื่นใดที่จะดำเนินการ ไม่เพียงแต่โค่นล้มเผด็จการทหารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการกำจัดเผด็จการและลัทธิชาตินิยมทั้งหมดด้วย

ดังนั้นในการกล่าวอวยพรปีใหม่ ประธาน KNU จึงกล่าวเพิ่มเติมว่าขอเชิญชวนทุกกลุ่มชาติพันธุ์รวมทั้งชาวกะเหรี่ยงให้เข้าใจและเผชิญกับสถานการณ์ปัจจุบันร่วมกันและมีส่วนร่วมในการปฏิวัติครั้งใหญ่

ครับในอดีต กองกำลังกะเหรี่ยง มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับรัฐบาลทหารพม่า มาตั้งแต่หลังได้รับเอกราช แต่มาถึงห้วงเวลาหนึ่ง โดยเฉพาะในยุคอดีต ประธาน KNU นายพลมูตู เซพอ บทบาทของกองกำลีงกะเหรี่ยงลดลงไปอย่างมาก และมาถึง ผาโด ซอว์ บิน ทู วิน ประธานสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) คนปัจจุบัน ที่เริ่มเห็นความขึงขังอีกครั้งหนึ่ง

แต่ก็ต้องดูต่อไปว่า ทั้งคนกะเหรี่ยงเอง และกองกำลังชาติพันธุ์ จะตอบรับกับข้อเรียกร้องนี้ มากน้อยแค่ไหนอย่างไร เพราะกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ โดยเฉพาะ กองทัพตะอาง กองทัพอาระกัน กองทัพคะฉิ่น กองทัพโกก้าง เขาทำล่วงหน้าไปก่อนแล้วครับ