ไปที่รัฐยะไข่กันบ้าง ล่าสุดทหารของเมียนมาร์ได้เปิดการโจมตีทางอากาศ ทำให้พิพิธภัณฑ์ที่แสดงจารึกหินอายุหลายร้อยปี และวัตถุอื่นๆ ซึ่งเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก ถูกทำลาย พร้อมมีรายงานเหตุสู้รบ มีพลเรือน 3 รายและบาดเจ็บคนอื่นๆ รวมถึงเด็ก เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ
25 ธันวาคม 2566 สำนักข่าว Chindwin News Agency รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม รัฐบาลเผด็จการทหารของเมียนมาร์ได้เปิดการโจมตีทางอากาศร้ายแรงเหนือเมืองมรัคอู ในรัฐยะไข่ ส่งผลให้อาคารหลายหลังในพื้นที่มรดกแห่งชาติเสียหาย การโจมตีทางอากาศดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่สถานที่ซึ่งมีความสำคัญทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่สำหรับชาวเมียนมาร์
แหล่งมรดกที่เป็นเป้าหมายหรือที่เรียกว่าเขตโบราณคดี Mrauk-U นั้นเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก เป็นที่ตั้งของวัดโบราณ เจดีย์ และสิ่งมหัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรมอื่นๆ มากมายที่มีอายุย้อนกลับไปตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 การทำลายโครงสร้างทางประวัติศาสตร์เหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำลายมรดกของประเทศเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงการสูญเสียมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าอีกด้วย
การโจมตีทางอากาศซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเช้าตรู่ได้สร้างความเสียหายอย่างมากต่อแหล่งมรดกแห่งนี้ อาคารหลายหลัง รวมถึงเจดีย์และวัดทางประวัติศาสตร์ ดูเหมือนจะได้รับความเสียหายหรือรื้อถอนทั้งหมด
ด้านสำนักข่าวThe Irrawaddy รายงานเมื่อ 25 ธันวาคม 2566 ว่า พิพิธภัณฑ์ที่แสดงจารึกหินอายุหลายร้อยปี และวัตถุอื่นๆ ถูกทำลายโดยการยิงปืนใหญ่ตามอำเภอใจของกองกำลังเผด็จการทหารในเมืองมรัค-อู เมืองมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของรัฐยะไข่ ซึ่งได้รับการเสนอให้เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก
พร้อมรายว่า ในเช้าวันอาทิตย์ ที่ 24 ธันวาคม 2566 กองทัพอาระกัน (AA) โจมตีสถานีตำรวจของรัฐบาลและฐานทัพทหารในเมืองมรัคอู ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กองพันทหารราบเบา 540 และ 377 ของรัฐบาลทหารได้สุ่มยิงใส่หมู่บ้านใกล้เคียง สังหารพลเรือน 3 รายและบาดเจ็บคนอื่นๆ รวมถึงเด็ก จากการเปิดเผยของชาวบ้านและ AA
ครับ เมืองมรัค-อู เมืองมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของรัฐยะไข่ ซึ่งได้รับการเสนอให้เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก กำลังได้รับความเสียหายจากสงครามที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งไม่ได้มีคุณค่าสำหรับชาวพม่าอย่างเดียว แต่มีความสำคัญในระดับโลกด้วยครับ
