มิน ออง หล่าย โทษอังกฤษ ใช้นโยบายแบ่งแยกและปกครองในช่วงปกครองพม่า ส่งผลกระทบต่อกลุ่มชาติพันธุ์ในเมียนมาร์ในถึงปัจจุบัน ระบุประเทศอาจแตกสลายได้หากไม่ได้รับการคุ้มครองอย่างเหมาะสม
21 ธันวาคม 2566 สำนัก The Irrawaddy รายงานว่า มิน ออง หล่าย หัวหน้าคณะเผด็จการทหาร กล่าวโทษอังกฤษสำหรับวิกฤตที่กำลังดำเนินอยู่ของเมียนมาร์ เมื่อเขากล่าวปราศรัยในเทศกาลเยาวชน วรรณกรรม และศิลปะ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองล่วงหน้าของวันประกาศเอกราชประจำปีครั้งที่ 76 ของประเทศ ในวันที่ 4 มกราคม ซึ่งตรงกับวันที่เมียนมาร์ได้รับเอกราชจากอังกฤษ พ.ศ. 2491 โดยระบุว่า ผลกระทบของนโยบายแบ่งแยกและปกครองของชาวอาณานิคมยังคงส่งผลกระทบต่อกลุ่มชาติพันธุ์ในเมียนมาร์
เขาเตือนด้วยว่า การรุกต่อระบอบการปกครองของเขาโดยองค์กรติดอาวุธชาติพันธุ์อย่างต่อเนื่อง ประเทศอาจแตกสลายได้ หากไม่ได้รับการคุ้มครองอย่างเหมาะสมด้วยความสามัคคี
ครับ พม่าอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษระหว่าง พ.ศ. 2367 – 2491 และได้รับเอกราชในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2491
หลังจากการประกาศเกราช ก็เกิดความแตกแยกทางการเมืองของกลุ่มชนหลายกลุ่ม
โดยเฉพาะการไม่ทำตามข้อตกลงที่ระบุไว้ในสัญญาปางโหลง ที่ให้รัฐที่เป็นชนกลุ่มน้อยเป็นอิสระแยกตัวเองออกจากพม่าได้
ทำให้ชนกลุ่มน้อยเริ่มทวงสิทธิตามรัฐธรรมนูญและเริ่มมีการปะทะกัน บ้านเมืองจึงเกิดความวุ่นวายและทวีความรุนแรงมากขึ้น และมีผลสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งความขัดแย้งนี้ ส่วนสำคัญมาจากนโยบายของอังกฤษในช่วงที่ปกครองพม่า ต้องการให้มีลักษณะแบ่งแยกแล้วปกครอง กล่าวคือ อังกฤษต้องการแยกเขตของชนกลุ่มน้อยออกจากดินแดนของชาวพม่าส่วนใหญ่ ต้องการให้มีความแตกต่างทางการเมือง เพื่อ สร้างความไม่กลมเกลียวกัน และจะปกครองได้ง่าย
และนี่เป็นผลให้พม่าแตกแยกกันอยู่ทุกวันนี้ อีกทั้งผู้นำทหารพม่าตลอดที่ผ่านมา ใช้การทหารนำการปกครอง และใช้วิธีการปราบปรามชนกลุ่มน้อย และประชาชาชาวเมียน ด้วยวิธีการที่รุนแรง ยิ่งกระพือไฟแห่งความแตกให้เพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้จบ ครับ