อองหล่าย ลงนามMOU รัสเซีย ลุยพลังงานนิวเคลียร์

415

 

ไปที่ตามข่าวกรณี รัฐบาลทหารเมียนมา พยามพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์กันบ้าง ที่ล่าสุด มิน ออง หล่าย ได้เดินทางไปมอสโควเพื่อพบกับบริษัทพลังงานนิวเคลียร์และอาวุธของรัสเซีย และได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจความร่วมมือในการฝึกอบรมและการพัฒนาทักษะในด้านพลังงานนิวเคลียร์ กับ บริษัทด้านพลังงานนิวเคลียร์ ของรัสเซีย เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ

13 ก.ค.65 เวบไซต์ข่าว myanmar-now เปิดเผยว่า มิน ออง หล่าย กำลังเดินทางไปรัสเซียเพื่อกระชับความสัมพันธ์ด้านกลาโหมและเศรษฐกิจกับประเทศรัสเซีย ท่ามกลางแรงกดดันจากนานาประเทศที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อให้ระบอบรัฐประหารของเมียนมาร์รับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิอย่างต่อเนื่อง

ผู้บัญชาการทหาร ซึ่งเป็นผู้นำการทำรัฐประหารเมื่อต้นปี 2564 ได้เดินทางไปมอสโคว์ในวันอาทิตย์ที่ 10 ก.ค.65 ในการเดินทางแบบไม่มีการประกาศก่อนหน้านี้ ที่สถานทูตรัสเซียในเมียนมาร์บรรยายว่าเป็น “ส่วนตัว” และคาดว่าจะดำเนินไปจนถึงสัปดาห์นี้

ตามคำแถลงอย่างเป็นทางการ เมื่อวันจันทร์ ที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้นำรัฐประหารได้พบกับ นายอะเล็กซี่ ลีคาเชฟ ( Alexey Likhachev) ผู้อำนวยการทั่วไปของ บริษัทรอสอะตอม (Rosatom Corporation) บริษัทผู้สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และประกอบธุรกิจพลังงานรายใหญ่ของรัสเซีย และหารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านพลังงานปรมาณู

ฝ่ายสื่อสารของบริษัทรอสอะตอม ในสิงคโปร์บอกกับ myanmar-now ว่า ขณะนี้ทั้งสองประเทศได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับ “ความร่วมมือในการฝึกอบรมและการพัฒนาทักษะในด้านพลังงานนิวเคลียร์และการสร้างความเข้าใจของประชาชนในเชิงบวกต่อพลังงานนิวเคลียร์ในเมียนมาร์

 

มิน ออง หล่าย ได้เดินทางไปมอสโควเพื่อพบกับบริษัทพลังงานนิวเคลียร์และอาวุธของรัสเซีย/image source : gnlm.com.mm

 

บริษัทอธิบายว่า เป็น “การวาง รากฐานที่มั่นคงสำหรับการพัฒนาความร่วมมือเพิ่มเติมในโครงการที่ใช้งานได้จริง

สื่อmyanmar-now ระบุด้วยว่า กระบอกเสียงของรัฐบาลทหารรายงานว่า มิน ออง หล่าย ยังได้พบกับตัวแทนของบริษัทรอสคอสมอส สเตท สเปซ คอร์ปอเรชั่น ( Roscosmos State Space Corporation ) และโรโซโบโรเน็กซ์พอร์ต (Rosoboronexport) ผู้ค้าอาวุธ เมื่อวันจันทร์ที่ 11 ก.ค. แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมของการประชุมเหล่านั้นในรายงาน

และว่า การเดินทางของ Min Aung Hlaing ไปรัสเซียตามมาด้วยการให้คำมั่นของ ของนายแอนโทนี บลิงเคน (Anthony Blinken) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่จะเพิ่มแรงกดดันต่อระบอบรัฐประหารของเมียนมาร์ระหว่างการเยือนไทยของเขาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

บลิงเคน (Blinken) เรียกร้องให้กลุ่มภูมิภาคอาเซียน (สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) “จัดการระบอบการปกครองทหารเมียนมา สำหรับการกระทำความผิดจากความรุนแรงที่ทวีความรุนแรงและการปราบปรามในประเทศ

สำหรับความพยายามในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ ของทหารเมียนมา มีข่าวออกมาเป็นระยะๆ เช่น เมื่อปี 2553 คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตยในพม่า (กรพ.) เปิดเผยถึงความพยายามที่จะผลิตอาวุธนิวเคลียร์อย่างลับๆ ด้วยความช่วยเหลือจากประเทศเกาหลีเหนือ ตามข้อมูลที่ให้ไว้โดย นาย สาย เต็ง วิน (Sai Thein Win) อดีตนายทหารยศพันตรีในกองทัพบกเมียนมา

และในตอนนั้น ยังมีข่าวว่า พม่ากำลังมีการก่อสร้างอาคารสถานที่ต่างๆ จำนวนมากแบบซุกซ่อนหลบเร้นอยู่ใต้ดิน เพื่อปิดบังอำพรางกิจกรรมดังกล่าวไม่ให้โลกภายนอกค้นพบ

ครับก็น่าจับตา สำหรับความพยามของรัฐบาลทหารเมียนมา ในการร่วมมือกับบริษัทพลังงานนิวเคลียร์ของรัสเซีย หากเป็นจริงขึ้นมาได้ตามข่าวที่ออกมาเป็นระยะๆ ก็คงเดือดร้อนกันไปทั่วไม่เฉพาะแต่กลุ่มชาติพันธุ์ แต่จะรวมไปถึงชาติอาเซียน เอเชียใต้ และรวมถึงจีนด้วยครับ