ไปที่รัฐฉานเหนือกันบ้าง ล่าสุด มีรายงานข่าวการสู้รบระหว่าง ทหารอองหล่ายกับ กองกำลังกลุ่มโกก้าง MNDAA ในเมืองพื้นที่เมืองโก รัฐฉานเหนือ หลังการสู้รบ กองกำลังกลุ่มโกก้าง ระบุว่า ได้เคลียร์พื้นที่ พบซากศพทหารเมียนมา ที่เน่าเปื่อยมากกว่า 18 ศพ ตลอดจนอาวุธของกองทัพเมียนมา ทิ้งไว้จำนวนมาก เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ
20 ตุลาคม 2564 มีรายงานจากสำนักข่าว :The Kokang ว่า วันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา มีการต่อสู้ระหว่างกองทัพเมียนมา และกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) ซึ่งเป็นกองกำลังของกลุ่มโกก้าง ในพื้นที่เมืองโก รัฐฉานตอนเหนือ ที่เป็นไปอย่างดุเดือด
รายงานข่าวบอกด้วยว่า การต่อสู้ปะทุขึ้นในหลายพื้นที่ โดยกองทัพเมียนมา ได้ระดมยิงปืนใหญ่ใส่ฝ่ายกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) และต่อมากองทัพเมียนมา ได้ลดการโจมตีด้วยปืนใหญ่ แต่ได้ส่งกองกำลังภาคพื้นดินจำนวนมาก ทำให้ทั้งสองฝ่ายจึงมีการยิงตอบโต้กันหลายแห่ง
โดยเมื่อเวลา 20.00 น. ของวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา กองกำลังขนาดเล็กของโกก้าง ได้โจมตีแนวหน้าของทหารเมียนมากว่า 40 นาย หลังจากการจู่โจมกองทหารเมียนมาได้ล่าถอยไป
กองกำลังกลุ่มโกก้าง เคลียร์พื้นที่พบซากศพทหารเมียนมา ที่เน่าเปื่อยมากกว่า 18 ศพ ตลอดจนอาวุธของกองทัพเมียนมา ทิ้งไว้จำนวนมาก /photo: he Kokang
ต่อมาในช่วงกลางดึก ฝ่ายโกก้างได้เคลียร์พื้นที่ ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่ทหารเมียนมายึดไว้เป็นเวลาหลายวัน พบซากศพของทหารเมียนมา ที่เน่าเปื่อยมากกว่า 18 ศพ ตลอดจนอาวุธและอุปกรณ์บางอย่างที่กองทัพเมียนมาทิ้งไว้ ได้แก่ ปืนกลเบา MA-2 6 กระบอก ปืนไรเฟิล MA-1 4 กระบอก ปืนไรเฟิล MA-4 3 กระบอก แมกกาซีน 16 ชิ้น จรวด 40 ลูก หมวก 2 ใบ และตะกร้าไม้ไผ่ 4 ใบ และอุปกรณ์ที่เสื่อมสภาพบางส่วน
ด้านสำนักข่าว Khit Thit Media รายงานเพิ่มเติมว่า กองกำลังโกก้างสามารถขนอาวุธออกมา ได้อย่างง่ายดายระหว่างการล่าถอย
สำหรับกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) หรือ กลุ่มโกก้าง มีพื้นที่ปกครองตนเอง ที่เรียกกว่าพื้นที่ปกครองตนเองโกก้าง ในเมียนมา ทางเหนือของรัฐฉาน ติดกับมณฑลยูนนาน ของจีน
ชาวโกก้าง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชนที่พูดภาษาจีน เป็นลูกหลานของกองทัพของชาวจีนตระกูลหยาง ที่ได้อพยพมาในช่วงกลางศตวรรษที่ 17 จากเมืองนานกิงไปยังมณฑลยูนนาน พร้อมกับผู้จงรักภักดีกับราชวงศ์หมิง ต่อมาได้อพยพ ไปยังรัฐฉาน ในเมียนมา และจัดตั้งพื้นที่ปกครองตนเองโกก้าง
กลุ่มโกก้าง เคยลงนามข้อตกลงหยุดยิงแบบทวิภาคีกับรัฐบาลทหารเมียนมาร์ เมื่อปี 2532 และหยุดยิงเรื่อยมาก่อนจะเกิดเหตุการณ์ขัดแย้งกัน ในปี 2552
กล่าวคือ กองกำลัง MNDAA ของโกก้าง ถูกกดดันให้เปลี่ยนสถานะกลายเป็นกำลังรบกึ่งทหารคุ้มกันชายแดนภายใต้การควมคุมของกองทัพเมียนมา แต่ MNDAA ต่อต้านเรื่องนี้
จากนั้น รัฐบาลทหารเมียนมา ในขณะนั้นส่งทหารเข้าไปในเขตโกก้าง บุกตรวจค้นโรงงานผลิตอาวุธที่เชื่อว่าทำบังหน้าการผลิตยาเสพติด และต่อมา กองทัพเมียนมาได้ยึดเมืองเลาก์ก่าย เมืองเอกของเขตโกก้าง ทำให้ MNDAA ก็เปิดฉากโจมตีทหารเมียนมา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุความรุนแรงในเขตโกก้าง ที่ต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้
ปัจจุบันกลุ่มโกก้าง มีกองทัพเป็นของตนเองคือกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา หรือ MNDAA มีทหารประมาณ 1,000 – 1,500 คน
สาเหตุที่กองทัพโกก้าง มีความแข็งแข็งเนื่องจาก มีการรวมมือ กับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์อื่นๆ อีก 3 กลุ่มในนาม กลุ่มพันธมิตรภาคเหนือ คือ กองทัพอาระกัน (AA) กองทัพคะฉิ่น (KIA) และกองทัพตะอั้ง (TNLA) ซึ่งเป็นกลุ่มที่สู้รบกับกองทัพเมียนมา
นอกจากนี้เมื่อเวลามีเหตุการณ์ปะทะที่รุนแรง ชาวโกก้างจะอพยพเข้าจีน ทำให้จีนต้องเข้ามาแทรกแซง อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์ในฐานะสายเลือดจีนอีกด้วย
ดังนั้น นี่คือเหตุผลที่ กองกำลังของกลุ่มโกก้าง แม้จะเป็นเป็นเพียงกองกำลังเล็กๆ แต่ทหารเมียนมา ไม่สามารถเผด็จศึกได้ง่ายๆ