ไทยหนุนสปป.ลาว! ออกพันธบัตร 55,500 ล้านบ.

511

 

มาติดตามข่าวประเทศไทยสนับสนุนสปป.ลาวออกพันธบัตร 55,500 ล้านบาท เพื่อลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกันบ้าง โดย เมื่อไม่นานมานี้ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังของไทย ได้อนุญาตให้กระทรวงการเงินของ สปป.ลาว ออกพันธบัตรสกุลเงินบาทเพื่อระดมทุนไปลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใน สปป.ลาว วงเงินรวม 55,500 ล้านบาท โดยออกขายพันธบัตรสกุลเงินบาทแล้ว 8 ครั้งในช่วงปี 2556-2561 วงเงินรวมทั้งสิ้น 45,690 ล้านบาท ซึ่งไทยเป็นประเทศแรกที่สนับสนุนให้ สปป.ลาว สามารถระดมทุนนอกประเทศได้สำเร็จ เป็นการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในภูมิภาคตามยุทธศาสตร์ของกระทรวงการคลัง เพื่อยกระดับให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านตลาดตราสารหนี้ในภูมิภาคและเสริมสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจร่วมกันของอาเซียน

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวอีกว่า EXIM BANK ล่าสุดได้เปิดสำนักงานผู้แทนในเวียงจันทน์ สปป.ลาว ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลและผู้ประกอบการไทยให้ความสำคัญกับ สปป.ลาว และแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในการขยายรูปแบบความร่วมมือและพัฒนาบริการทางการเงินให้มีประสิทธิภาพและหลากหลายมากยิ่งขึ้น นับเป็นผลงานชิ้นสำคัญของ EXIM BANK ในการผลักดันการค้าและการลงทุน เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจแก่ทั้งสองประเทศ อันจะส่งผลให้รายได้ประชาชาติ การลงทุน การจ้างงาน และความอยู่ดีมีสุขของประชาชนทั้งสองประเทศดีขึ้น นำไปสู่ความใกล้ชิดแน่นแฟ้นและความมั่งคั่งยั่งยืนทางธุรกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญของ EXIM BANK ในการสนับสนุนทางการเงินให้แก่ธุรกิจส่งออก นำเข้า และลงทุน มายาวนานกว่า 20 ปี โดยเฉพาะโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พลังงาน สาธารณูปโภค และอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปใน สปป.ลาว

 

ด้านนายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวว่า EXIM BANK ได้สนับสนุนทางการเงินให้แก่โครงการต่างๆ ใน สปป.ลาว รวมทั้งสิ้นกว่า 30,000 ล้านบาทในโครงการพัฒนาประเทศด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การก่อสร้างถนน การลงทุนในโรงไฟฟ้า รวมถึงโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีการจำหน่ายไฟฟ้ากลับมายังประเทศไทย และอีกหลายโครงการในภาคอุตสาหกรรมและบริการ

สปป.ลาวเป็นประเทศที่มีประชากร 7 ล้านคน มีขนาดเศรษฐกิจเล็กที่สุดในกลุ่ม CLMVT ไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่เป็นประเทศที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ยในช่วงปี 2561-2565 ราว 7% ต่อปี สูงที่สุดใน CLMVT และสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยอาศัยจุดแข็งของ สปป.ลาวในการมีพรมแดนติดกับ CLMVT และจีน ทำให้ สปป.ลาว เป็นประตูเชื่อมโยงเครือข่ายพลังงาน เส้นทางคมนาคมขนส่ง การท่องเที่ยว และการค้าของภูมิภาค

 

นี่คือความก้าวหน้า ในความสัมพันธ์ของไทยและสปป.ลาว ในการร่วมมือทางเศรษฐกิจ อันจะนำไแปสู่ความมั่นคง มั่งคัง ยั่งยืนทางเศรษฐกิจ ร่วมกันครับ