ไปที่สปป.ลาวกันบ้าง ล่าสุดได้มีการประท้วงของแรงงานเมียนมากว่า 1 พันคน ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ในสปป.ลาว ซึ่งเป็นที่ตั้งของกาสิโนของจีน เนื่องจากตกงาน และ ไม่พอใจมาตรการล็อกดาวน์ป้องกันโควิด-19 ก่อนที่จะเจรจากันได้และการชุนนุมยุติลง อย่างไรก็ตามสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้พื้นที่นี้ ซบเซาอย่างหนัก แทบไม่มีนักท่องเที่ยว เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ
เมื่อ 6 ส.ค.64 มีรายงานงานว่า แรงงานงานเมียนมานับพันคน ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ในสปป.ลาว ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ตรงข้ามอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย และติดกับประเทศเมียนมา ได้พากันขนสิ่งของออกจากที่พัก ออกมาบนท้องถนน และจะเดินทางกลับภูมิลำเนาของตนเอง
เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ไม่มีงานทำ รวมทั้งไม่พอใจมาตรการกักตัวที่ใช้ระยะเวลาที่นานเกินไป 2-3 เดือน โดยที่ตำรวจจีน และตำรวจลาว ได้พยายามเข้ามาควบคุมสถานการณ์ แต่เนื่องจากแรงงานมีจำนวนมาก ทำให้ได้แต่ดูสถานการณ์อยู่ห่างๆ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เพจ เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยนทองคำ รายงานเพิ่มเติมว่า การประท้วงดังกล่าว เกิดจาก การไม่พอใจมาตรการล็อกดาวน์ป้องกันโควิด-19 ของแรงงานเมียนมากว่าพันคน ได้ออกมาประท้วงบนถนนในพื้นที่ แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากคณะกรรมการควบคุมเขตเศรษฐกิจพิเศษแขวงบ่อแก้ว คณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการเจรจากับตัวแทนของผู้ชุมนุมกว่า 2 ชั่วโมง ทางผู้ประท้วงได้ยุติการชุมนุม ก่อนจะพากันแยกย้ายกลับที่พีก โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ
รายงานข่าวว่าระบุด้วยว่า ผู้ประท้วงส่วนใหญ่ตกงานและว่างงาน ในขณะที่ผู้ที่ทำงานตามปกติจะอาศัยอยู่ในที่ทำงานของตนเอง
และว่า จริงๆแล้ว เขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งนี้ ได้มอบสิทธิพิเศษแก่แรงงานเมียนมาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ ด้วยการให้งาน ที่พัก การฝึกอบรมฟรีแก่แรงงานพม่าและบริการอื่นๆเกี่ยวกับการปกป้องแรงงาน และในช่วงล็อกดาวน์ ได้ให้ที่พัก น้ำ ไฟ อาหาร ตรวจโควิด ค่ารักษา ค่าวัคซีน แก่แรงงานเมียนมาฟรีหมด
สำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ตั้งอยู่เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และติดกับประเทศเมียนมา เป็นการลงทุนของบริษัทดอกงิ้วคำ ในเครือคิงส์ โรมัน กรุ๊ป กลุ่มธุรกิจกาสิโน มีเจ้า เหว่ย นักธุรกิจชาวจีนเป็นเจ้าของ และพื้นที่แห่งนี้ มีแรงงานจากหลายชาติอาศัย และทำงานอยู่ เช่น ชาวลาว จีน เมียนมา ไทย เวียดนาม
โดยมีรายงานข่าวก่อนหน้านี้ว่า ปกติพื้นที่แห่งนี้มีความคึกคักมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปจำนวนมาก โดยเฉพาะนักเสี่ยงโชค แต่จากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ซบเซาอย่างหนัก ขณะนี้แทบไม่มีนักท่องเที่ยว ธุรกิจสำคัญที่นี่ คือ กาสิโนของจีน จึงกระทบเต็มๆ ครับ