สวัสดีครับพบกันอีกเช่นเคยกับช่อง 1one.asia วันนี้มาติดตามข่าว โครงการสายไฟลงดินถนนวอล์คกิ้งสตรีท พัทยาใต้ กันบ้างนะครับ ที่ล่าสุด ทางผู้บริหารเมืองพัทยา ได้ประชุมเพื่อพิจารณาหลังจากได้มีการปรับรูปแบบใหม่ โดยเน้นการออกแบบพัฒนาพื้นที่ต้องไม่กระทบต่อวิถีความเป็นอยู่ เพื่อพัฒนาให้เกิดความมีชีวิตชีวาทั้งกลางวันและกลางคืน สมกับเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่างแท้จริง ซึ่งการดำเนินโครงการนี้เป็นไปตามแผนโครงการสายไฟฟ้าในเมืองใหญ่ เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ
เมื่อ 2 มิ.ย.63 นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เป็นประธานรับฟังการนำเสนอโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ถนนวอล์คกิ้งสตรีท พัทยาใต้(Walking Street Pattaya:Landscape Development Design) พร้อมคณะผู้บริหารเมืองพัทยา และผู้ประกอบการวอล์คกิ้งสตรีทเข้าร่วมประชุมหารือครั้งนี้ โดยมีผู้อำนวยการสำนักการช่าง รก.ผอ.ส่วนวิศวกรรมก่อสร้างและทีมงาน เป็นผู้นำเสนอโครงการฯ ที่ ศาลาว่าการเมืองพัทยา
โดยผู้บริหารเมืองพัทยา ได้กำชับว่า การออกแบบที่ดีนั้นต้องคำนึงถึงประโยชน์การใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกแบบพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวต้องไม่กระทบต่อวิถีความเป็นอยู่ ความเป็นเสน่ห์และกลิ่นไอของความเป็นวอล์คกิ้งสตรีทที่มีอยู่
รวมถึงเป้าหมายเพื่อการพัฒนาให้เกิดความมีชีวิตชีวาทั้งกลางวันและกลางคืน สมกับเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่างแท้จริง เพื่อส่งเสริมและนำรายได้ด้านการท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศชาติ โดยจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาหลังจากการปรับรูปแบบใหม่ในโอกาสต่อไป
ส่วนการดำเนินโครงการนี้ เดิมนั้น มีกําหนดไว้ในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.ปี 2563 แต่เนื่องจาก มีการปรับรูปแบบการก่อสร้างของระบบวางท่อระบายน้ำเมืองที่จะมีการผันน้ำผ่านถนนวอล์คกิ้งสตรีท โดยใช้ท่อระบายน้ำขนาด 3 เมตร ฝังลงใต้ถนนอีก 1 ระบบ ทำให้สัญญาจ้างการก่อสร้างของการไฟฟ้าต้องชะลอการก่อสร้างออกไปก่อน
รวมทั้ง ความกว้างถนนวอล์คกิ้งสตรีทมีความกว้างไม่เท่ากันทำให้เป็นอุปสรรคในการวางระบบระบายน้ำระบบไฟฟ้าที่อยู่ด้วยกัน ซึ่งต้องหาข้อสรุปต่อไป
สำหรับการดำเนินการโครงการนี้ กฟภ. เคยเปิดเผยว่าลักษณะของการเปิดหน้างานในโครงการวอล์คกิ้งสตรีท จะมีการเปิดผิวจราจรบริเวณกลางถนน เปิดขุดหลุมขนาดความลึก 2 เมตร ปากหลุม 3 เมตร ในการวางระบบท่อ และบ่อพักสายสําหรับร้อยท่อขนาด 22 Kv และ สายไฟฟ้าแรงตํ่าจํานวน 127 บ่อ ตลอดระยะความยาวของแนวถนนประมาณ 2 กิโลเมตร
ซึ่งในช่วงของการก่อสร้างนั้นจะมีการปิดผิวจราจรตรงกลางในระยะ 4 เมตรที่กันแนวด้วยแบริเออร์ทั้ง 2 ด้าน ครั้งละความยาวประมาณ 30 เมตร จะเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสัญจรผ่านช่วงหน้างานได้ทั้ง 2 ด้านในระยะ 1-2 เมตรต่อด้าน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อระบบการจราจรและการท่องเที่ยวในบางส่วนได้
สำหรับโครงการนี้ เป็นไปตามแผน “โครงการสายไฟฟ้าในเมืองใหญ่” ซึ่งเป็นแผนตามนโยบายของรัฐบาลในการจัดระเบียบสายสื่อสาร และภูมิทัศน์ในพื้นที่ท่องเที่ยวสําคัญของประเทศ 4 หัวเมืองหลัก ได้แก่ เชียงใหม่ พัทยา หาดใหญ่ และโคราช ซึ่งมีแผนดําเนินการระหว่างปี 2560-2564 ในงบประมาณรวมกว่า 11,668 ล้านบาท
พัทยา เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก และเป็นเมือง ที่สวยงาม ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาจำนวนมาก แต่เสียอย่างเดียวครับหลายๆจุด มีสายไฟฟ้าพะรุงพะรัง
