สวัสดีครับพบกันอีกเช่นเคยกับช่อง 1one.asia วันนี้มาติดตามความคืบหน้ารถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมากันบ้าง ที่ล่าสุด กระทรวงคมนาคม ยืนยันว่า จีนพร้อมนัดประชุมในช่วงต้นเดือน ก.พ. 2563 และจะสามารถลงนามในสัญญา 2.3 ทันที ตามแผนการโครงการนี้จะแล้วเสร็จในปี 2566 เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ
สำหรับคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 252.35 กม. โครงการนี้มีวงเงินลงทุนรวม 179,412.21 ล้านบาท ที่ความคืบหน้าตอนนี้ อยู่ระหว่างการรอการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน (Joint Committee หรือ JC) ครั้งที่ 28 ในเรื่องสกุลเงิน อัตราแลกเปลี่ยน และวันลงนามสัญญา 2.3 ที่เกี่ยวกับ การวางราง และระบบการเดินรถ ระบบอาณัติสัญญาณ พร้อมขบวนรถ วงเงิน 50,633.50 ล้านบาท
โดยเรื่องนี้ เมื่อ 6 มกราคม 2563 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า จีนมีหนังสือแจ้งมาแล้วว่าพร้อมจะร่วมประชุม ในช่วงต้นเดือน ก.พ. 2563 และจะสามารถลงนามในสัญญา 2.3 ได้ทันที
ส่วนเรื่องเงินกู้นั้น จีน ยอมรับในเงื่อนไข การใช้เงินกู้เป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐ (USD) ในสัดส่วน 80% ส่วนอีก 20% จะใช้เป็นเงินสกุลบาท ในขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนที่จะใช้อัตราค่าเฉลี่ยตั้งแต่วันยื่นจนถึงวันลงนามสัญญา
นอกจากนี้ การประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 28 ครั้งนี้ จะได้ติดตามความก้าวหน้าของงานทั้งหมดและเงื่อนไขที่คณะทำงานได้เจรจากันมา
สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะทำหนังสือถึงอัยการสูงสุดเพื่อสอบถามว่าสามารถดำเนินการลงนามได้หรือไม่ ทั้งนี้เพื่อความถูกต้องและรอบคอบ หากอัยการสูงสุดยืนยันว่าดำเนินการได้ ร.ฟ.ท.จะส่งร่างสัญญา 2.3 ให้อัยการสูงสุดพิจารณาคู่ขนาน และเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ เพื่อให้พร้อมที่จะลงนามในสัญญา 2.3 ตามกำหนดต่อไป
โดยก่อนหน้านี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้ระบุว่า จะเร่งการเปิดประมูลงานก่อสร้างในสัญญาที่เหลือ เพื่อให้สามารถเปิดใช้ตามกำหนดในปี 2566 เพราะขณะนี้รถไฟ ลาว-จีน ก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ
นี่คือความคืบหน้า ล่าสุด โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงกรุงเทพ นครราชสีมา ที่มีความชัดเจนขึ้นตามลำดับ โดยทางฝ่ายจีนตอบยืนยันและเห็นด้วยกับเงื่อนไขที่ได้มีการตกลงกันเบื้องต้นแล้ว และต้องการที่จะลงนามสัญญา 2.3 ช่วงต้นเดือน ก.พ. 2563