เมียวดี ส่อวุ่นอีก! ทห.พม่า ใช้ ฮ.ขนทห.-อาวุธ ยึดคืนค่าย 275

133

ไปที่เมืองเมียวดีต่อ ล่าสุด เฮลิคอปเตอร์ทหารพม่า 2 ลำ บินไปยังกองทหารราบเบาที่ 275 เมืองเมียวดี คาดขนทหารและอาวุธ และหลบเลี่ยงการเคลื่อนพลทางพื้นดิน หวั่นถูกโจมตี ด้านชาวบ้าน เห็น ฮ.นำกองกำลังมากกว่า 20 นาย พร้อมอาวุธครบมือมาหย่อนทิ้งไว้ ก่อนบินกลับขึ้นมา เรื่องนี้น่าสนไปติดตามกันครับ

29 เมษายน 2567 สำนักข่าว Khit Thit Media รายงานว่า ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยง เปิดเผยว่า สภาทหารพม่า กำลังดำเนินการขนส่งบางสิ่ง ด้วยเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำไปยังกองทหารราบเบาที่ 275 ในเมืองเมียวดี

โดยพวกเขาบอกว่า เฮลิคอปเตอร์กำลังจะลงไปที่กองทหารราบเบาที่ 275 แต่ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังขนส่งอะไร คิดว่าอาจเป็นทหารและอาวุธ พร้อมระบุ แปลกที่พวกเขาเริ่มขนส่งด้วยเฮลิคอปเตอร์
รายงานข่าว ระบุด้วยว่า กำลังเสริมาหรพม่า ที่มาเมืองเมียวดี ไม่สามารถผ่านเนินเขา โดนน่า ได้ และกองกำลังปฏิวัติก็เข้าโจมตีพวกเขาตลอดทาง ชาวบ้านจึงวิเคราะห์ว่า ทหารพม่าสามารถส่งกำลังเสริมไปยังกองทหารราบเบาที่ 275 ทางอากาศได้
ด้านสำนักข่าว KIC รายงานเพิ่มเติมว่า ชาวบ้านในรัฐกะเหรี่ยงบอกกับ KIC ว่ากองทัพสภาทหารส่งกองกำลังไปยังที่ทำการแนวหน้าในท้องที่หมายเลข 4 ของเมืองเมียวตี สองครั้งเมื่อ 29 เมษายน โดยเฮลิคอปเตอร์ทหาร

ชาวบ้านที่เห็นด้วยตัวเองกล่าวว่า มีผู้คนมากกว่า 20 คน พวกเขาติดอาวุธครบมือ พวกเขาบินร่อนลง 5 นาทีแล้วกลับขึ้นไป”
ชาวบ้านยังกล่าวด้วยว่าเครื่องบินรบ Mi35 บินลาดตระเวนทางอากาศ เพื่อคุ้มกันเฮลิคอปเตอร์ทหาร ที่ทิ้งกองที่ทิ้งพวกเขาลง
โดยก่อนหน้านี้ 23 เม.ย. 2567 มีรายงานข่าวว่า ทหารพม่าราว 60 นาย ที่ไปหลบอยู่ บริเวณพื้นที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ได้เคลื่อนย้ายกลับไปยังที่ตั้งหน่วยกองพันทหารราบเบาที่ 275 โดยมีกองทัพกะเหรี่ยงแห่งชาติ (KNA) หรือกำลังพิทักษ์ชายแดนฯ เดิม (BGF) ของ พันเอก หม่อง ชิตตู่ ทำหน้าที่คุ้มกันและเคลื่อนย้าย

และเมื่อเข้าไปในค่ายทหารเมียนมาได้รีบเปลี่ยนธงชาติจากธงของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู.) เป็นของทหารเมียนมาทันที พร้อมจัดเตรียมอาคารสถานที่เพื่อรองรับกำลังพลจะเข้ามาสมทบ

ซึ่งประเด็นที่จบอย่างนี้ มีรายงานข่าวจากสื่อข่าวสด โดยระบุว่า ฝ่ายความมั่นคงไทยแจ้งว่า คาดว่าทั้ง 2 กลุ่ม คือ ทหารเมียนมาและเคเอ็นเอ. น่าจะบรรลุข้อตกลง ในการลดความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชน และสร้างพื้นที่ปลอดภัยในตัวจังหวัดเมียวดี และพื้นที่ส่วยโก๊กโก่ แหล่งพนันออนไลน์ และขบวนการค้ามนุษย์ ของกลุ่มทุนจีน ที่ พันเอก หม่อง ชิตตู่ เป็นเจ้าของพื้นที่อยู่
ครับ ตั้งแต่กะเหรี่ยงได้รับเอกราชจากอังกฤษ พ.ศ.2491 มีหลายครั้งที่มีโอกาสจะสถาปนาดินแดนของตัวเองขึ้นมาได้ กล่าว คือ ในยุคของ ซอบาอูจี บุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดต่อการปฏิวัติกะเหรี่ยง ที่กองทัพกะเหรี่ยง สามารถยึดเมืองทางตอนใต้ของพม่าได้ถึง 14 เมือง มีอำนาจการต่อรองมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
โดยซอว์บาอูจี ตั้งเป้าจัดตั้งรัฐของชาวกะเหรี่ยงที่เรียกรัฐกอทูเล โดยมีเขตแดนตั้งแต่ตอนใต้ของรัฐกะยา ลงใต้มาทางตองอูจนถึงตะนาวศรี และเขตอิรวดีด้วย โดย โดยซอว์บาอูจี ได้ประกาศ หลักการในการปฏิวัติไว้ 4 ข้อ ซึ่งเรียกว่า หลักการบะอูจี 1 ในนั่นคือ ประเทศกะเหรี่ยงจะเป็นที่รู้จักและได้รับเกียรติเช่นนานาประเทศ ซึ่งในแสดงให้ว่า คนกะเหรี่ยงเคยฝันถึงการมีประเทศเป็นของตัวเอง ไม่ใช่แค่การเรียกร้องรัฐ
ในการต่อสู่ของ ซอว์ บา อูจี ผู้นำสหภาพกะเหรี่ยง ในตอนนั้น พม่าได้ใช้ นายพลมิน หม่อง ซึ่งเป็นชาวกะเหรี่ยงถูกร้องขอให้ทำลายองค์กรของซอว์ บา อูจี
ซอ บะอูจี เสียชีวิต พ.ศ.2493 ที่เมืองพะอัน เพราะถูกทหารพม่าทำการเข้าปิดล้อมและระดมยิง

ต่อมาถึงยุค นายพลโบเมียะ ที่กองกำลังเหรี่ยงแข็งแกร่ง โดยมีค่ายสำคัญคือ ค่ายมาเนอปลอว์ และค่ายคอมูรา แต่ก็ถูกตีแตก เพราะพม่า ยุให้แตกแยกเป็น กะเหรี่ยงพุทธและกะเหรี่ยงคริสต์ ในที่สุดค่ายก็ถูกตี แยก กำลังศักนภาพก็ลดลงเรื่อยๆ และต้องถอยร่นมาติดชายแดนไทยมากขึ้น และชาวกะเหรี่ยงต้องอพยพหลั่งไหลเข้ามาสู่แผ่นดินไทย

จนมาถึงเหตุการณ์ล่าสุด ที่กะเหรี่ยงสามารถเมืองสำคัญในรัฐกะเหรี่ยงได้ รวมทั้งเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างเมืองเมียวดี ที่ไม่คาดคิดว่า กะเหรี่ยงจะยึดจากพม่าได้ แต่ก็สามารถยึดได้ แต่ต้องมาจบที่หม่องชิตตู่ กลัวทหารพม่า จะเอาบินรบไปทิ้งระเบิดใส่ย่อนของตัวเอง ก็เลยยอมคืนค่าย 275 ให้กับทหารพม่า

จากทั้ง 3 เหตุการณ์จะเห็นได้ว่า จริง ๆแล้ว ถ้ากะเหรี่ยงเอาจริง ก็สามารถที่จะตั้งรัฐหรือดินแดนของตัวเองได้ แต่ที่ไม่สำเร็จทักทีหนึ่ง เพราะมีผู้นำบางคนที่เห็นประโยชน์ของตัวเองมากกว่าผลประโยชน์ของชาวกะเหรี่ยงโดยรวมครับ////