ไทย-ซาอุฯ ยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูต ร่วมมือด้านพลังงานระหว่างสองประเทศให้มีความใกล้ชิด และซาอุฯ ได้จับมือ ปตท.-กฟผ.พัฒนาธุรกิจเชื้อเพลิงไฮโดรเจนในประเทศไทย เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ
มีรายงานจากสำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ เมื่อ19 พ.ย. 2565 ว่า นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงผลการหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยในประชุมเอเปกว่า
ไทยและซาอุดีอาระเบีย ได้หารือทวิภาคีเพื่อยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตและเสริมสร้างความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างสองประเทศให้มีความใกล้ชิดและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น พร้อมร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างกระทรวงพลังงานแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงพลังงานแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เพื่อเป็นกรอบแนวทางในการแสวงหาความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียด้านพลังงานในมิติต่างๆ
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย/Cr.ภาพ : i-newsmedia.net
เช่น ความร่วมมือด้านปิโตรเลียม เชื้อเพลิงไฮโดรเจน เทคโนโลยีการดักจับและกักเก็บคาร์บอน การพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนและเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ การส่งเสริมนวัตกรรมด้านพลังงาน การแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับด้านพลังงาน เป็นต้น
นอกจากนี้ หน่วยงานภาคเอกชนของไทยกับซาอุดีอาระเบีย ยังได้ลงนามขยายความร่วมมือธุรกิจด้านพลังงานระหว่างผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศ ระหว่างบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กับบริษัท ACWA Power ของซาอุดีอาระเบียเพื่อผลักดันการพัฒนาธุรกิจเชื้อเพลิงไฮโดรเจนในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนาพลังงานสะอาดและการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน
ครับ ซาอุฯ เป็นประเทศพลังงานที่สำคัญ และเป็นประเทศที่ร่ำรวย การตัดสินใจมือกับไทยนั้น โดยเฉพาะด้านพลังงานนั้น ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี นอกจากจะช่วยสร้างความมั่นคงด้นพลังงาน และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ยังช่วยให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางด้านพลังานของอาเซียนอีกด้วย ครับ