พรรครัฐมอญใหม่ เข้าพบอองหล่าย เห็นพ้องร่าง รธน.ตั้งสหพันธรัฐ

270

 

ไปที่กรุงเนปยีดอว์ ประเทศเมียนมา มาติดตามความคืบหน้าการเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลอองหล่าย กับกลุ่มชาติพันธุ์ กันต่อ จากก่อนหน้านี้ กลุ่มของเจ้ายอดศึก หรือ สภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน เข้าเจรจากับอองหล่ายแล้ว ล่าสุด รองประธานพรรครัฐมอญใหม่ ได้เข้าพบเป็นกลุ่มที่ 2 ระบุ เห็นพ้องร่างรัฐธรรมนูญเพื่อจัดตั้งสหพันธรัฐ และรัฐธรรมนูญแห่งรัฐเพื่อความเสมอภาคและการกำหนดกันเอง เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ

23 พ.ค.65 สำนักข่าว burmese.dvb รายงานว่า ไน ออง มิน รองประธานพรรครัฐมอญใหม่ (NMSP) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ ได้พบกับผู้นำรัฐประหารในกรุงเนปิดอว์เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2565

โดย โฆษกของ พรรครัฐมอญใหม่ (NMSP) บอกกับ DVB ว่าที่ประชุมตกลงที่จะร่างรัฐธรรมนูญเพื่อจัดตั้งสหพันธรัฐ และรัฐธรรมนูญแห่งรัฐเพื่อความเสมอภาคและการกำหนดกันเอง

โฆษกพรรครัฐมอญใหม่ กล่าวอีกว่า “เรากำลังดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างพื้นฐานสำหรับการร่างรัฐธรรมนูญของสหพันธรัฐ

พร้อมระบุ เรายื่นข้อเสนอว่าจะเร่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับต่อไปให้เร็วขึ้น อีกอย่างคือรัฐของเรา เมื่อมีการร่างรัฐธรรมนูญ เราเสนอว่าอนุญาตให้ทุกกลุ่มชาติพันธุ์อภิปรายได้อย่างอิสระ ซึ่งผู้นำทหารเมียนมาเห็นด้วย

ในระหว่างการประชุม พล.อ.มิน ออง หล่าย ผู้นำกองทัพ ได้อธิบายถึงการเลือกตั้งในปี 2566 ที่จะเกิดขึ้นและสถานการณ์การรัฐประหารของกองทัพ

 

พรรครัฐมอญใหม่ ตกลงที่จะอนุญาตให้พรรคการเมือง รวมทั้งกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ 10 กลุ่ม เข้าร่วมการเจรจาสันติภาพ เขาแนะนำว่าควรปรึกษาผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดเพื่อหาทางแก้ไขวิกฤตการเมืองในปัจจุบัน

โดยคณะผู้แทนรัฐมอญใหม่ (NMSP) ได้เดินทาง ไปยังกรุงเนปิดอว์ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อพบกับผู้นำกองทัพ แม้ว่าจะมีการประท้วงจากกลุ่มนักศึกษามอญและกลุ่มประชาสังคมบางกลุ่ม

พรรครัฐมอญใหม่ (NMSP) เป็นพรรคที่ได้ร่วมลงนามข้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศ (NCA) เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 ภายใต้รัฐบาล NLD

แต่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันระหว่างนักการเมืองมอญและชาวมอญเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของ พรรครัฐมอญใหม่ NMSP ในการเจรจาสันติภาพที่ได้รับเชิญจากสภาทหาร

ชายชาวมอญคนตยหนึ่ง ตั้งคำถามว่าการเจรจาสันติภาพกับสภาทหารจะแก้ปัญหาวิกฤตทางการเมืองในปัจจุบันได้หรือไม่ และ พรรครัฐมอญใหม่ ไม่มีทางเลือกอื่นหรือไม่

ด้านเยาวชนชาวมอญอีกคนหนึ่งกล่าวว่า พรรครัฐมอญใหม่ จะไม่สามารถล้มล้างเผด็จการทหารได้ในอนาคต หากไม่ดำเนินการปฏิวัติในช่วงเวลาที่เหมาะสมนี้

และ พรรครัฐมอญใหม่ ควรเข้าร่วมกองกำลังกับรัฐบาลเงาหรือ NUG หรือกลุ่มติดอาวุธที่เป็นพันธมิตรชาติพันธุ์เพื่อต่อสู้กับเผด็จการทหาร

 

รองประธานพรรครัฐมอญใหม่ ได้เข้าเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลอองหล่าย/Cr.Burma VJ 

 

อย่างไรก็ตาม มีผู้ที่มองว่าการเจรจาเป็นหนทางสู่ความมั่นคงในรัฐมอญและกระบวนการสันติภาพของพม่า โดยชายชาวมอญคนหนึ่ง กล่าวว่าเขาหวังว่าการเจรจาสันติภาพกับสภาทหารจะมีผลดี

โฆษก พรรครัฐมอญใหม่ (NMSP) บอกกับ สำนักข่าว DVB ว่าเขาต้องเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพที่ได้รับเชิญจากสภาทหาร เพราะเขาปฏิบัติตามหลักการของ ข้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศ (NCA) ในการแก้ไขปัญหาทางการเมืองด้วยวิธีการทางการเมือง

เขากล่าวว่าการเจรจาสันติภาพจะเน้นที่กระบวนการสร้างการเจรจาทางการเมืองที่ครอบคลุม และกระบวนการสร้างสหพันธรัฐประชาธิปไตย ซึ่งรวมถึงการคุ้มครองพลเรือน

และว่า พรรครัฐมอญใหม่ (NMSP) ไม่ได้นิ่งเฉยต่อการปฏิวัติฤดูใบไม้ผลิ แต่กำลังดำเนินการสร้างความสามัคคีของชาติมอญด้วยการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เหมาะสม

รายงานบอกอีกว่า พรรครัฐมอญใหม่ (NMSP) เป็นกลุ่มที่ 2 ต่อจากสภาฟื้นฟูรัฐฉาน (RCSS / SSA) ของกลุ่มเจ้ายอดศึก เพื่อพบปะกับรัฐบาลทหาร

โดยกลุ่มชาติพันธุ์ ที่ได้ลงนามข้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศ (NCA) และจะเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพกับรัฐบาลอองหล่าย
ประกอบด้วย 1.สภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน(RCSS/SSA) หรือกองทัพรัฐฉานใต้ 2.พรรครัฐมอญใหม่(NMSP) 3.สภาแห่งชาติกะเหรี่ยงสันติภาพ(KNU/KNLA-PC) 4.กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย(DKBA) 5.พรรคปลดปล่อยอาระกัน(ALP) 6.องค์กรปลดปล่อยชาติปะโอ(PNLO)7.สหภาพประชาธิปไตยลาหู่(LDU)

นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ไม่ได้ลงนาม NCA เช่น กองทัพสหรัฐว้า(UWSA) กองทัพเมืองลา(NDAA) และกองทัพพรรคก้าวหน้ารัฐฉาน(SSPP/SSA) หรือกองทัพรัฐฉานเหนือ และกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติ จะเข้าร่วมการเจรจาด้วย
ปัจจุบัน พลเอกอาวุโส มิน ออง หล่าย ผู้นำรัฐประหาร มีกำหนดจะพบกับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์เหล่านี้ ทุกสามวัน

ครับ พรรครัฐมอญใหม่ (NMSP) เป็นอีกชาติพันธุ์ที่มีความสำคัญ ซึ่งการเข้าร่วมเจรจากับกลุ่มอองหล่ายครั้งนี้ มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ดังนั้น เป้าหมายของการเข้าร่วมครั้งนี้ จะบรรลุหรือไม่ โดยเฉพาะการตั้งสหพันธรัฐ และการร่างรัฐธรรมนูญ ก็ต้องติดตามกันต่อไปครับ