ผบ.กะเหรี่ยง KNLA สั่งห้ามยิงรถบรรทุก-รถพลเรือนในพื้นที่

250

ไปที่รัฐกะเหรี่ยงกันอีกครับ ล่าสุด ผู้บัญชาการกองกำลังกะเหรี่ยง KNLA ออกหนังสือสั่งห้ามทหารกะเหรี่ยง ยิงรถบนเส้นทางถนนเมียวดี-คอคาเรก หลังจากก่อนหน้านี้ได้เกิดเหตุการณ์ยิงรถบรรทุก และรถโดยสารจนทำให้มีผู้เสียชีวิต และกระทบต่อการขนส่งสินค้าจากไทย ลั่นชัดใครฝ่าฝืนจะมีบทลงโทษ เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ

24 เมษายน 2565 สำนักข่าว KIC ของกะเหรี่ยง รายงานว่า พล.อ.ซอ จอห์นนี่ ผู้บัญชาการกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) ได้ออกคำสั่งเมื่อ 23 เมษายนที่ผ่านมา ได้สั่งห้ามยิงรถบนถนนสายอาเซียน (AH 1) ช่วงเมียวดี-คอคาเรก โดยสั่งผู้บังคับบัญชาระดับล่างในกองพลน้อย/กองพันของ KNU ที่เกี่ยวข้องว่าจะไม่ทำการลอบวางเพลิงอีก

 

เหตุการณ์ ยิงรถบนเส้นทางถนนเมียวดี-คอคาเรก  รัฐกะเหรี่ยง/Cr.ภาพ cj,Karen Information Center -KIC 

 

โดยเจ้าหน้าที่จากกองพลที่ 7 ของ KNU ยืนยันกับ KIC ว่า “จดหมายนี้เป็นความจริง นี่เป็นคำสั่งของการตัดสินใจของ ผู้บัญชาการสูงสุด KNLA โดยการละเมิดคำสั่งนี้จะมีการดำเนินการที่เหมาะสม

โดยก่อนหน้านี้ เมื่อ 27 มีนาคม ได้เหตุการณ์เผา รถบรรทุกสินค้า 2 คัน บนถนนสายอาเซียน (AH 1) บริเวณเมืองกอกะเรก โดยรถทั้ง 2 คันถูกโจมตีขณะวิ่งจากเมืองเมียวดีเพื่อไปส่งสินค้ายังเมืองกอกะเรก รัฐกะเหรี่ยง
นอกจากนี้เมื่อ 28 มีนาคม มีรถเก๋งอีก 1 คัน ถูกยิงในเมียวดี ทำให้ผู้โดยสาร ที่เป็นชาย ถูกกระสุนเสียชีวิต

ทั้งนี้เหตุการณ์เหล่านี้ เกิดขึ้น หลังจากเมื่อ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา เป็นวันแรกที่สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ประกาศปิดถนนสายอาเซียน (AH 1) ช่วงจากเมืองเมียวดี ไปยังเมืองกอกะเรก จังหวัดดูบลายา อันเป็นเส้นทางหลักของการขนส่งสินค้าที่พม่านำเข้าไปจากประเทศไทย
ซึ่งการประกาศปิดถนน สืบเนื่องมาจากทหารกะเหรี่ยงได้ปะทะกับทหารอองหล่าย เมื่อ21 มีนาคม และต่อมา กองทัพทหารอองหล่าย ได้เสริมกำลังพลจำนวนมากเข้ามาในพื้นที่ จนทำให้กะเหรี่ยงได้มีคำสั่งประกาศปิดถนนสายอาเซียน ดังกล่าว

ครับ ถนนสายอาเซียน (AH 1) ช่วงจากเมืองเมียวดี ไปยังเมืองกอกะเรก จังหวัดดูบลายา ในรัฐกะเหรี่ยง เป็นเส้นทางการขนส่งสินค้าจากไทยไปเมียนมาที่สำคัญ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อการส่งสินค้าอย่างมาก ดังนั้นการใช้ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยกับกะเหรี่ยง ในการเจรจา น่าจะช่วยให้การแก้ไขปัญหานี้ ได้ในระยะยาวครับ