ปะทะเดือด! กะเหรี่ยงแดง-ทห.อองหล่าย ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ

299

 

ไปที่รัฐกะยากันบ้าง ล่าสุด กองกำลังกะเหรี่ยงแดงหลายกลุ่ม ได้ผนึกกำลังปะทะเดือด ทหารอองหล่าย ในเมืองดีมอโซ รัฐกะยา ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ในขณะที่ทหารอองหล่าย ใช้เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธและยิงปืนใหญ่ และใช้โล่มนุษย์ ป้องกันการโจมตี เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ

25 มกราคม 2565 มีรายงาน จากกองกำลังป้องกันประชาชนเมืองหลอยก่อ หรือ PDF Loikaw ในรัฐกะยา ว่า เมื่อ 24 มกราคม 2565 รอบหมู่บ้านโฮเปะ ในเมือง ดีมอโซ (Demawso) อยู่ห่างจากเมืองหลอยก่อ ประมาณ 9 กม. เกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือด กินเวลาตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ระหว่างกองกำลังชาวกะเหรี่ยงแดงหลายกลุ่ม กับทหารอองหล่าย

การปะทะเกิดขึ้นโดยกองกำลังพันธมิตร เช่น กองกำลังคะเรนนี (Karenni Army) หรือ KA กองกำลังป้องกันประชาชนหลอยก่อ (Loikaw PDF) กองกำลังป้องกันประชาชนดีมอโซ (Demawso PDF) กองกำลังป้องกันแห่งชาติกะเรนนี (KNDF) กองกำลังกะเรนนีเจนเซด ( KGZ ) และ กลุ่มปฏิบัติการพิเศษส่วนกลาง (Central Special Operations Group)

โดยทหารอองหล่าย ได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่สามารถยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตที่แน่นอนได้

 

 

กองกำลังป้องกันประชาชนเมืองหลอยก่อ หรือ PDF Loikaw

ส่วนฝ่าย ฝ่ายกะเหรี่ยงแดง มีบางคนได้รับบาดเจ็บ โดยตามรายงานของ กองกำลังป้องกันประชาชนเมืองหลอยก่อ หรือ Loikaw PDF ฝ่ายกะเหรี่ยงแดง ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย และผู้บาดเจ็บทั้งหมดได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเหมาะสม

รายงานข่าวบอกด้วยว่า ทหารอองหล่าย ใช้เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธและยิงปืนใหญ่ในตอนเย็น แต่หน่วยทหารราบติดอาวุธไม่อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะปฏิบัติการเนื่องจากการโจมตีของกองทัพประชาชน และต้องพึ่งพาการสนับสนุนทางอากาศ

นอกจากนี้ ทหารอองหล่าย ได้ใช้โล่มนุษย์ การเผาบ้านของผู้บริสุทธิ์ การโจรกรรมและการปล้นสะดมยังคงดำเนินต่อไปทุกวัน
โดยก่อนหน้านี้ สำนักข่าวชายขอบ ได้สัมภาษณ์ นายพลบีทู ผู้บัญชาการกองกำลังคะเรนนี (Karenni Army-KA) ปีกทหารของพรรคก้าวหน้าแห่งชาติคะเรนนี (Karenni National Progressive Party-KNPP) โดยบางช่วงบางตอนระบุว่า ดูสภาพอาการ ทหารพม่าน่าจะหมดแรงแล้ว ถ้ากำลังพลหมดก็หมดเลย ตอนนี้ทหารหนีทัพ บาดเจ็บ และตายจำนวนมาก เขาไม่รู้จะเอาใครไปเป็นทหารแล้ว เพราะประชาชนพม่าไม่ให้การสนับสนุน

และว่า แม้กองกำลัง KNPP ไม่โด่งดังและใหญ่โตเท่า KNU (Karen National Union) หรือ SSA (Shan State Army) แต่ความมุ่งมั่นในการทวงคืนอิสรภาพมีไม่น้อยกว่ากันเลย

พร้อมระบุว่า เป้าหมายของเราคือการปกครองตนเอง ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย

ครับรัฐกะยา เป็นรัฐเล็กสุดในเมียนมา แต่หากวัดกันที่หัวใจ กลับเป็นนักสู้ ที่ยิ่งใหญ่ไม่เป็นแพ้กลุ่มชาติพันธุ์พื้นที่อื่นๆ ในเมียนมา ครับ