ฮ.ทห.อองหล่าย ดอดโจมตี กะเหรี่ยงKNUตอนดึก

305

 

ไปที่รัฐกะเหรี่ยงกันต่อ ล่าสุด เฮลิคอปเตอร์ของทหารอองหล่าย ได้โจมตีกองพลน้อยที่5 ของกะเหรี่ยง KNU และ โจมตีสถานพยาบาล ในเมืองผาปูน รัฐกะเหรี่ยง ช่วงกลางดึก โดยวันก่อนหน้า ได้ใช้เครื่องบินโจมตี กะเหรี่ยง KNLA ในเมืองเมียวดีและเมืองก่อกะเรก และยังคงใช้ปืนใหญ่ การโจมตีทางอากาศ ต่อเมืองใหม่เลเก้ก่อ และปาลู รัฐกะเหรี่ยง ใกล้ชายแดนไทย ต่อเนื่อง เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ

สำนักข่าว Salween Press รายงานว่า 12 มกราคม 2565 ว่า เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา เฮลิคอปเตอร์ของทหารอองหล่าย ได้โจมตีกองพลน้อยที่ 5 ของกะเหรี่ยง และ โจมตีสถานพยาบาลเลอทูโพ ในเขต KNU กองพลที่ 5 ที่เขต Mutaw หรือ ผาปูน รัฐกะเหรี่ยง ซึ่งในภาพจะปรากฏอาคารได้รับความเสียหายจากการโจมตี ดังกล่าว

โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา เครื่องบินทหารได้บิน ลาดตระเวนในพื้นที่ อู มิ ทะ (U Mi Hta) ของพื้นที่ KNU กองพลที่ 5 ( Brigade 5) ตามรายงานของกะเหรี่ยง KNU

 

เฮลิคอปเตอร์ของทหารอองหล่าย ได้โจมตีกองพลน้อยที่5 ของกะเหรี่ยง KNU และ โจมตีสถานพยาบาล ในเมืองผาปูน รัฐกะเหรี่ยง/Cr.KNU Mutraw

ด้านสำนักข่าวดิอิรวดี รายงานเมื่อ 11 มกราคม 2565 ว่า ทหารอองหล่าย ได้ใช้เครื่องบินโจมตีกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) ปีกทหารของ KNU ในเมืองเมียวดีและเมืองก่อกะเรก รัฐกะเหรี่ยง ในวันอาทิตย์ที่ 9 ม.ค.และวันจันทร์ที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา

พร้อมระบุ การสู้รบยังคงดำเนินต่อไปในหมู่บ้านปาลูในเมืองเมียวดีที่ใกล้ชายแดนไทยในวันอังคารที่ 11 ม.ค. โดยในแต่ละวันทหารอองหล่าย ใช้ปืนใหญ่เข้าโจมตีเมืองใหม่เลเก้ก่อและปาลู พร้อมกับการโจมตีทางอากาศเป็นประจำ ตามการระบุของแหล่งข่าว ของกะเหรี่ยง KNU ซึ่งเป็นปีกการเมืองของ KNLA

รายงานข่าว ระบุด้วยว่า เฮลิคอปเตอร์ของทหารอองหล่าย 2 ลำยิงใส่หมู่บ้านในเมืองก่อกะเรก หลังการต่อสู้ในเช้าวันจันทร์ที่ 10 ม.ค.

ในขณะที่ ชาวกะเหรี่ยงประมาณ 1,900 คนจาก 7 หมู่บ้านทางตอนใต้ของเมืองก่อกะเรก รัฐกะเหรี่ยง ได้หลบหนีออกจากบ้านระหว่างการปะทะกันครั้งล่าสุด

ครับ อองหล่าย บอกต่อนายกฯฮุนเซนว่า จะมีการขยายการหยุดยิงกับกองกำลังชาติพันธุ์ ที่จะสิ้นสุดในปลายเดือนก.พ.นี้ เป็นจนถึงสิ้นปี แต่ในความเป็นจริงทหารอองหล่าย ยังคงบุกรุกพื้นที่ของกลุ่มชาติพันธุ์อย่างต่อเนื่อง เห็นท่าทีแบบนี้ จึงตีความได้ว่า คงเป็นเรื่องยาก ที่สถานการณ์ในเมียนมา จะจบลง ด้วยการเจรจา