ไปที่รัฐกะเหรี่ยง เมียนมา กันต่อ ล่าสุด การเปิดศึกรอบใหม่รับหน้าแล้ง ระหว่างฝ่ายทหารอองหล่ายกับกะเหรี่ยง KNU ที่เมืองใหม่เลเก้ก่อ เมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ส่งผลให้มีทหารรัฐบาล 6 นาย และทหาร BGF 2 นาย ถูกจับเป็น และยังมีรายงานว่า เหตุปะทะเมื่อ16 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทหารเมียนมา 18 นาย เสียชีวิต และอีก 6 นาย ได้รับบาดเจ็บ เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ
17 ธันวาคม 2564 สำนักข่าวดิอิรวดี รายงานว่า ทหารของรัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมา 6 นายและสมาชิกกองกำลังรักษาชายแดน หรือ BGF 2 นาย ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเผด็จการ ถูกจับทั้งเป็น ระหว่างการสู้รบของกองทหารของรัฐบาล กับกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) ซึ่งเป็นปีกทหารของกะเหรี่ยง KNU ในหมู่บ้านแม่ตอท่าเล ใกล้เมืองใหม่เลเก้ก่อ เมืองเมียวดี ของรัฐกะเหรี่ยง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 ธ.ค.64
ด้านสำนักข่าว Khit Thit Media รายงานเพิ่มเติมว่า PVTV ช่องข่าวทางการของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ หรือ NUG รายงานว่า สมาชิกสภาทหาร 18 นายเสียชีวิต และอีก 6 นาย ได้รับบาดเจ็บในการปะทะกันเมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา
จากการปะทะกันระหว่างกองกำลังผสมกะเหรี่ยง KNLA และ PDF ในพื้นที่ กะเหรี่ยง KNU กองพลน้อยที่ 6 (KNU Brigade 6) เมืองใหม่เลเก้ก่อ
ในขณะที่สำนักข่าว Salween Press รายงานเพิ่มเติมว่า การต่อสู้ระหว่างรัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมาและกองทัพกะเหรี่ยง กองทหารปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง KNLA ที่เลเก้ก่อ เมืองเมียวดี ในรัฐกะเหรี่ยง ทำให้ชาวบ้าน รวมทั้งผู้สูงอายุ เด็ก และสตรีมีครรภ์ ข้ามแม่น้ำเมยเพื่อเข้าสู่แผ่นดินไทย ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อความปลอดภัย ทางการไทยได้เข้าเยี่ยมชมพื้นที่ที่ผู้ลี้ภัยเข้ามาและหลบภัยในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ทหารของรัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมา 6 นายและสมาชิกกองกำลังรักษาชายแดน หรือ BGF 2 นาย ถูกจับตัวในรัฐกะเหรี่ยง
ครับ จริงๆ แล้ว การเปิดศึกระหว่างทหารอองหล่าย และกองกำลังรักษาชายแดน หรือ BGF กับ กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) ของ กะเหรี่ยง KNU เป็นที่คาดการณ์ว่าจะต้องเกิดขึ้น เพราะมีข่าวออกมาว่าทั้งสองฝ่ายเต็มพร้อมเปิดศึกใหญ่กันแน่ เมื่อย่างเข้าสู่หน้าแล้ง
ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้ ไทยจะต้องปวดหัวกันต่อ ทั้งผู้อพยพที่จะทะลักเข้ามา หรือ กระสุนจากการสู้รบที่จะยิงเข้ามาตกในฝั่งไทย จะปล่อยให้เกิดซ้ำซากเป็นประจำปี ทหารเมียนมา ยิงปืนเฉี่ยวหัวชาวบ้านไทยไปมา หรือ แก้ปัญหาให้เด็ดขาดไปเลยก็อยู่ที่ความกล้าหาญของผู้รับผิดชอบของไทยครับ
