ไปที่ สปป.ลาวกันบ้าง ล่าสุด จีนได้ส่งมอบอาคารโรงพยาบาลมโหสถแห่งใหม่ ในนครหลวงเวียงจันทน์ ให้ สปป.ลาว ระบุจะเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีถึง 600 เตียง และลานจอดเฮลิคอปเตอร์บนดาดฟ้า ด้วยงบประมาณก่อสร้าง กว่า 3 พันล้านบาท เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ
12 พฤศจิกายน 2564 สำนักข่าว laotiantimes รายงานว่า อาคารปีกแรกของอาคารโรงพยาบาลมโหสถแห่งใหม่ ในนครหลวงเวียงจันทน์สร้างเสร็จ และส่งมอบอย่างเป็นทางการเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 พ.ย.64
โรงพยาบาลมโหสถแห่งใหม่ และสิ่งอำนวยความสะดวกได้ส่งมอบอย่างเป็นทางการต่อ ดร. บุนแฝง พูมมะไลสิด (Bounfeng Phommalaysith)รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยนาย เจียง ไจ้ตง (Jiang Zaidong) เอกอัครราชทูตจีนประจำสปป.ลาว เป็นตัวแทนส่งมอบ ตามรายงานของสถานีวิทยุแห่งชาติลาว
รายงานข่าวบอกด้วยว่า สิ่งอำนวยความสะดวกใหม่นี้ สร้างขึ้นบนพื้นที่ทั้งหมดกว่า 5 เฮกตาร์ หรือกว่า 50,000 ตารางเมตร และเมื่อสร้างเสร็จทั้งหมด จะกลายเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
โครงการก่อสร้างแบ่งออกเป็น 2 ระยะ โดยระยะแรกประกอบด้วย อาคารผู้ป่วย 8 ชั้น และอาคาร 4 ชั้น ส่วนเฟสที่สองมีอาคาร 5 ชั้น และ 4 ชั้น มีกำหนดแล้วเสร็จภายในสิ้นปี พ.ศ. 2565
จีนได้ส่งมอบอาคารโรงพยาบาลมโหสถแห่งใหม่ ในนครหลวงเวียงจันทน์ ให้ สปป.ลาว /Cr.ภาพ
Lao Youth Radio FM 90.0 Mhz
พร้อมระบุว่า โรงพยาบาล มีเตียง 600 เตียงและลานจอดเฮลิคอปเตอร์บนดาดฟ้า สร้างและให้ทุนสนับสนุนโดยสาธารณรัฐประชาชนจีนใน จำนวนเงินกว่า 592 ล้านหยวน (92 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือราว 3,013,920,000.00 บาท
โดยรัฐบาลจีนยังได้จัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลมโหสถแห่งใหม่ ตลอดจนการฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลเป็นเวลาสามปี หลังจากโครงการก่อสร้างเสร็จสิ้น มุ่งเป้าไปที่การปรับปรุงคุณภาพการรักษาของแพทย์ชาวลาว
สำหรับพิธีวางศิลาฤกษ์ของโครงการนี้จัดขึ้นในปี 2560 โดยมีท่าน บุญยัง วรจิตต์ อดีตประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เข้าร่วมระหว่างการเยือนของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
สำหรับ โรงพยาบาลมโหสถ เป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในประเทศลาว ก่อตั้งโดยแพทย์ชาวฝรั่งเศสในปี 2453 โดยมีอาคารเดิมบางส่วนที่เหลืออยู่ในพื้นที่
ครับ รัฐบาลจีน ได้ให้การช่วยเหลือด้านต่างๆ อย่างมาก โดยเฉพาะการสร้างโรงพยาบาลมโหสถ ถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เพราะจะช่วยดูแล รักษาสุขภาพของประชาชน ให้ได้รับการบริการที่ดี และถือเป็นมิตรภาพที่ดีของทั้ง 2 ชาติ
แต่ถึงกระนั้นก็ตามสิ่งที่จีนทำนี้ ทางศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เรียกว่า “soft power” หรือ อำนาจอ่อน หรือ อำนาจละมุน แล้วแต่จะเรียก
ซึ่งสิ่งที่อาจจะตามมาหลังการช่วยเหลือเหล่านี้ คือ การเข้ามามีบทบาทมากขึ้นของจีน ในสปป.ลาว ทั้งด้านสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการเมือง ในอนาคตต่อไป ครับ